September 13, 2025

www.thainewsbiz.com

ครบธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว แลไลฟ์สไตล์

พม.พบแล้วดาวเด่นจากเวที “Street to Star” คว้ารางวัลใหญ่ พร้อมถ้วยรางวัล

กรุงเทพฯ – เย็นวานนี้ (12 กันยายน 2568) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจัดการประกวดรอบชิงชนะเลิศโครงการ “Street to Star…เส้นทางจากถนนสู่ดวงดาว” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีมกว่า 55 ทีม/คน ร่วมโชว์ความสามารถเต็มพลังต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เข้าแข่งขันได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งคณะกรรมการและผู้เข้าร่วมงานว่าเป็น “พลังสร้างสรรค์จากถนนสู่เวทีใหญ่” ที่สะท้อนศักยภาพคนไทยซึ่งพร้อมจะก้าวสู่โอกาสใหม่ในระดับอาชีพ

สำหรับ รางวัลที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับในการประกวดครั้งนี้ แบ่งเป็น ประเภทเดี่ยว รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงิน 60,000 บาทรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 40,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงิน 20,000 บาท ส่วนประเภทวง รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงิน120,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 80,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงิน 40,000 บาท ตามลำดับโดยผู้ชนะเลิศทั้งประเภทเดี่ยวและประเภทวง จะได้รับถ้วยรางวัลจากประธานองคมนตรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับถ้วยรางวัลจากปลัดกระทรวง พม.

สำหรับถ้วยรางวัลออกแบบโดยใช้ “กุญแจซอล” เป็นแกนหลัก สื่อถึงสัญลักษณ์ทางดนตรีที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางตามฝันบนถนนสายศิลป์ เสริมด้วยรูปทรงเกลียวสื่อถึงพลังแห่งการก้าวหน้าและการมุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด ปลายยอดประดับ “ดวงดาว” แทนเป้าหมายและความฝันที่ศิลปินทุกคนใฝ่ถึง โดยในการออกแบบรูป ดวงดาว (Star) หมายถึงความโดดเด่น ความสำเร็จ และการยอมรับในเวทีดนตรี ขณะที่ โครงสร้างเกลียว (Spiral Form) ได้แรงบันดาลใจจากกุญแจซอล สื่อถึงการเคลื่อนไหว การพัฒนา และการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ และฐานรางวัลสื่อถึงความมั่นคง ความพยายาม และการสนับสนุนจากสังคม ตัวถ้วยเน้นโทนสีทอง สื่อถึงความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จ และเกียรติยศของผู้ชนะเลิศ เปรียบเสมือนการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้แสดงความสามารถทุกคนก้าวสู่การเป็นแบบอย่างที่
ภาคภูมิใจของสังคม

นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า โครงการ “Street to Star” เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ภายใต้การขับเคลื่อนตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 และการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีความสามารถเพื่อยกระดับผู้ที่ใช้การแสดงดนตรี ศิลปะ หรือการร้องเพลงในการดำรงชีวิต ให้ได้รับการยอมรับในสังคมและก้าวสู่เส้นทางที่มั่นคง

ปัจจุบันมีผู้แสดงความสามารถที่ขึ้นทะเบียนกว่า 15,000 รายทั่วประเทศ โดยกว่าหนึ่งในสามเป็นนักดนตรีสมัครเล่นและอาชีพ การประกวดครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดพื้นที่แสดงศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจแก่ทั้งผู้เข้าแข่งขันและประชาชนทั่วไป“ทุกคนที่ขึ้นเวทีในวันนี้คือดวงดาวที่ส่องประกายด้วยความสามารถและความพยายาม ไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ให้ตนเอง แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมเห็นคุณค่าของความรู้ ความสามารถ และศิลปวัฒนธรรมที่งดงามของไทย” นายกันตพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงค่ำ ได้มีการประกาศผลการประกวด ซึ่งผู้ชนะเลิศประเภทวงได้แก่ วง PK.Fusion Band เพลงที่ใช้ในการ ประกวดคือ Ain’t no sunshine ในวงประกอบด้วย นางสาวพิมพ์ชนก เต็มใจ และ นายวัฒนา ทองคำ รับเงินรางวัล 120,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล,รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่วงทโมน เพลงที่ใช้ในการประกวด เป็นเพลงแต่งเอง (เพลงบักเซียงน้อย) ในวงประกอบด้วยเด็กหญิงจิรันธนิน เภสัชชะ, เด็กชายณัฐพัฒน์ เฉลิมศิลป์, เด็กชายปัณณวิชญ์ เนาวบุตร และนายคีตา วารินบุรี รับเงินรางวัล 80,000บาทพร้อมถ้วยรางวัล ,รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่วง Red Ribbon เพลงที่ใช้คือเพลง อยากเจอ ในวงประกอบด้วย เด็กชายภคพล มุทราอิศ,เด็กชายนคราทร แซ่ซู้, เด็กชายลูอิส รวินทร์ คัปปุชโช, นายรตน ฮิลเดอบรานด์ และ นายชญาพิพรรธน์ นิยมธรรมรับเงินรางวัล 40,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล

ส่วนประเภทเดี่ยว ผู้ชนะเลิศได้แก่ นางสาวทัตพิชา กิตติพนังกุล เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ วาดไว้ รับเงินราง 60,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล ,รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาววัลภา ลครพล เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ สาวเพชรบุรี รับเงินรางวัล 40,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เด็กหญิงศุภสุดา รอดคุ้ม เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ เพื่อนรัก รับเงินรางวัล 20,000 บาท
พร้อมถ้วยรางวัล

นอกจากนี้ยังมีรางวัลเชิดชูศิลปวัฒนธรรม มอบพิเศษให้กับวงรองแง็ง สวนกวีพื้นบ้าน จ.กระบี่ รับเงินรางวัล 10,000 บาท