October 7, 2024

www.thainewsbiz.com

ครบธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว แลไลฟ์สไตล์

Indus อาหารอินเดียตอนเหนือ รสชาติหรูหรา สง่างาม ตามมาตรฐานมิชลิน

อาหารอินเดีย นับเป็นอาหารยอดนิยมที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งยังอุดมด้วยเครื่องเทศต่างๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย อาหารอินเดียจึงเป็นที่นิยมของคนไทยเชื้ออินเดีย รวมถึงคนไทยที่ชื่นชอบรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมของเครื่องเทศ แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับกลิ่นและรสชาติเครื่องเทศจ๋าของอาหารอินเดีย วันนี้เราขอแนะนำร้าน Indus ร้านอาหารอินเดียที่เสิร์ฟอาหารอินเดียร่วมสมัยที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณที่มีต่ออาหารอินเดียไปเลย

ร้าน Indus เป็นร้านอาหารอินเดียที่เสิร์ฟอาหารอินเดียสไตล์โมกาลัยแท้ๆ (อินเดียตอนเหนือ) มาตั้งแต่ปี 2548 ร้านนี้ได้รับรางวัลทางด้านอาหารจากหลายสถาบัน อาทิ Michelin Plate 2018 – 2020, BK Top Tables 2020, Thailand Tatler’s Best Restaurant 2020 เป็นต้น และยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้ร้าน Indus ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นร้านอาหารอินเดียที่สามารถเปลี่ยนนักกินชาวไทยให้หันมาเป็นแฟนอาหารอินเดียอีกด้วย
ร้าน Indus ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 26 ตัวร้านดัดแปลงจากบ้านเก่า 2 ชั้น ตกแต่งสไตล์อาร์ตเดโคในยุค 1960 ประตูทางเข้ามีกรอบรูปแบบ Rajasthani โบราณ เชิญชวนให้อยากก้าวเข้าไปค้นหา ภายในร้านตกแต่งหรูหราราวพระราชวังอินเดีย ฝาผนังประดับประดาไปด้วยงานศิลปะที่สะท้อนความเป็นอินเดียไว้ได้อย่างน่าประทับใจ และสร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยแสงไฟสลัว คลอด้วยเสียงดนตรีภายในเลานจ์ โซนรับประทานอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ด้านในเป็นห้องอาหารที่หรูหราราวพระราชวัง และบาร์ที่กว้างขวาง ให้บรรยากาศการรับประทานอาหารที่เป็นส่วนตัว ด้านนอกเป็นสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์สวนเขตร้อน ให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่รื่นรมย์เหมือนนั่งอยู่ในท่ามกลางสวนดอกไม้ในต่างประเทศ

ร้าน Indus บริหารงานโดย คุณสิทธัตถะ เชกาล (Sid Sehgal) กรรมการผู้จัดการหนุ่มไฟแรง ซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในปี 2547 และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความปรารถนาที่จะสร้างร้านอาหารอินเดียที่สดใหม่และมีชีวิตชีวา ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงการนำเสนอที่สร้างสรรค์และที่สำคัญที่สุดคืออาหารอร่อย

ตั้งแต่ปี 2016, ร้าน Indus ได้ร่วมมือกับ Dr. Pushpesh Pant – ศาสตราจารย์นักเขียนพิธีกรรายการทีวี และหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอินเดียชั้นนำของอินเดียว และ Nishant Choubey เชฟชาวอินเดียที่ได้รับรางวัล ดร. แพนท์ เดินทางไปเยี่ยมเยียนเมืองสินธุทุกๆ สองเดือน เพื่อให้ความรู้และสูตรอาหารที่หายไปนาน ซึ่งล้วนเป็นสูตรอาหารที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเมนู A La Carte ที่เป็นตัวอย่างประวัติศาสตร์และสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของอารยธรรมกลุ่มแม่น้ำสินธุเมื่อ 4000 ปีก่อนคริสตกาล

สำหรับอาหารส่วนใหญ่เน้นที่การจัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงในท้องถิ่นที่ปลูกในสภาพที่ยั่งยืนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นสารอินทรีย์และมีปริมาณคาร์บอนต่ำ ซึ่งรวมถึงการปลูกวัตถุดิบบางอย่างในฟาร์มที่ร้านอาหารเป็นเจ้าของ และเยี่ยมชมฟาร์มที่พวกเขาจัดหามา เครื่องเทศต่างๆ ล้วนนำเข้าจากอินเดีย (ไม่ใช่เครื่องเทศสำเร็จรูป) และนำมาเก็บไว้ในสภาวะควบคุมอุณหภูมิ จากนั้นนำมาบดด้วยมือเป็นประจำทุกวัน เพื่อรักษาความสดใหม่และรักษาขนบการปรุงอาหารแบบอินเดียแท้ๆ เอาไว้ คุณสิทธัตถะเผยเคล็ดลับว่าทางร้านใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ในประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเทศเยอะ ทำให้อาหารของที่นี่ไม่มีกลิ่นฉุนอย่างอาหารอินเดียทั่วไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอาหารที่นี่จึงถูกปากนักชิมชาวไทยที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

“เหตุผลที่ผมเริ่มต้นทำ Indus คือความต้องการเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารอินเดียในหมู่คนไทย และผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จใจในระดับหนึ่ง ทุกวันนี้ลูกค้าเกือบ 50 % เป็นคนไทย และเรายังคงต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาลองอาหารอินเดียเป็นครั้งแรกกับเราอยู่เรื่อยๆ และเรามีความยินดีเมื่อพวกเขาประหลาดใจและประทับใจในอาหารอินเดีย”
เมนูแนะนำวันนี้ เริ่มที่ PAPDICHAAT เป็นข้าวเกรียบ ซึ่งทำจากแป้งถั่วนำมาทอดกรอบ มีรสเผ็ดเล็กน้อย โรยหน้าด้วยถั่วชิกพี ใส่มันฝรั่ง โยเกิร์ต เสิร์ฟพร้อมซอสมะขาม และซอสมิ้นต์ชัทนีย์ เป็นเมนูอาหารว่างที่นิยมมากที่อินเดีย

Tandoori Creamy Broccoli เป็นบล็อกโคลี่จากโครงการหลวง หมักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และครีมชีส ปรุงด้วยผงกระวาน นำมาย่างในเตาย่าง Tandoor ของอินเดีย
Kebab-e-Malai เป็นเมนูจากไก่เนื้อนุ่มหมักโยเกิร์ต ครีมชีส กะวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และเครื่องเทศของอินเดียปรุงรส แล้วนำมาย่างให้มีกลิ่นหอม
Tandoori Tiger Prawns เป็นกุ้งลายเสือมาหมักกับน้ำมันมัสตาร์ด ใบฟีนกรีก เครื่องเทศและโยเกิร์ตแล้วนำไปย่างในเตาย่าง Tandoor
Raan Sikandari เป็นขาแกะย่างสูตรอินดัส ขาแกะมาจากฟาร์มที่ทางร้านซื้อเป็นประจำมา 15 ปีแล้ว เป็นเมนูที่ทำยากมาก ใช้ส่วนน่องของแกะ นำมาหมักถึง 12 ชม. และตุ๋นอีก 7 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาย่างไฟอ่อน เนื้อจะนุ่มมาก และไม่มีกลิ่นเลย
Palak Paneer ผักโขมสับใส่ครีม ผัดร่วมกับคอทเทจชีส หั่นทรงสี่เหลี่ยม สูตรของทางอินดัส

Khatte Baingan แกงกระหรี่ มะเขือม่วงเผา ปรุงด้วยหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ เครื่องเทศอินเดีย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวบาสมาติ ซึ่งหุงกับหญ้าฝรั่น ทานกับแป้งนาน
Murgh Dum Biryani เมนูข้าวหมกไก่ ซึ่งเป็นสูตรของทางภาคเหนือของอินเดีย จากลัคนาว (Lucknow) จะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอมจากดอกไม้มากกว่ากลิ่นเครื่องเทศ ต้องปรุงในหม้อดิน ถ้าเป็นทางภาคใต้จะมีรสเผ็ดและมีสีแดงกว่า
Ayurvedic Chai ชาร้อนสมุนไพร ซึ่งอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสมุนไพรไทย เช่น กานพลู ขิง ใบโหระพา กระวาน เม็ดยี่หร่าและน้ำผึ้ง
Gulab Jamun Flambe’ กุหลาบจามุน ทำมาจากนมเคี่ยวให้แห้ง แล้วนำไปทอดในน้ำเชื่อมผสมน้ำกุหลาบ มีรสชาติหวาน
Phirni พุดดิ้งข้าว โรยหญ้าฝรั่นและกระวานเขียว เสิร์ฟให้ทานแบบเย็นๆ ได้รสชาติและความหอมของกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ

สำหรับคนที่ยังไม่เคยรับประทานอาหารอินเดีย มาเริ่มต้นประสบการณ์ประทับใจที่ Indus แล้วคุณจะติดใจและเปลี่ยนมาเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารอินเดียเหมือนกับเรา ตอนนี้ทางร้านมี Promotion พิเศษมากมาย ได้แก่

  • Direct Delivery: 20% Discount on food items
  • สำหรับมื้ออาหารสุดพิเศษ สุดสัปดาห์ Sunday Brunch เริ่ม เวลา 11:00 -15:00 น.
  • นอกจากนี้ยังมี Ladies Night ทุกคืนวันพฤหัสที่ Indus มาสนุกกับดนตรีสดกับวงYada Petite Gomez – The Voice พร้อมจิบค็อกเทลสูตรพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50% ตั้งแต่เวลา19.30น เป็นต้นไป

INDUS Bangkok Indian Restaurant ร้านอาหารอินเดีย สุขุมวิท 26
สำรองที่นั่ง โทรศัพท์ : 0 2258 4900 หรือ 086 339 8582
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 0 – 23.00 น.
เว็บไซต์ : www.indusbangkok.com/
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/indusbkk/
ปักหมุดพิกัด Map : https://goo.gl/maps/XphEcVK6KWdmK85C8