เปิดผลศึกษาชุมชน พบวัยรุ่นสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ ถึงร้อยละ 38 เกินครึ่งรู้แหล่งซื้อในชุมชน ด้านหนุ่มไรเดอร์ เปิดใจ เคยเอาควันบุหรี่ไฟฟ้าไปทำร้ายคนที่บ้านช่วงสงกรานต์เพราะคิดว่ามันไม่อันตราย สูบบุหรี่ไฟฟ้ามา 3 ปี เกือบเอาชีวิตไม่รอด ติดเชื้อในกระแสเลือด วอนหยุดเลิกสูบก่อนสายเกินไป
วันที่ 2 เมษายน 2568 – สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ครอบครัวปลอดบุหรี่ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กลุ่มไม้ขีดไฟ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ “บุหรี่ไฟฟ้ามันร้าย” พร้อมเสวนา “สงกรานต์นี้เลิอกเถอะ…หยุดเอาควันบุหรี่ไฟฟ้าไปฝากคนที่บ้าน” จากนั้นผู้ร่วมงานได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์และข้อห่วงใย “พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า”

นายธนภัทร แสงหิรัญ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ภาคอีสาน กล่าวว่า จากการสำรวจความเห็นกลุ่มตัวอย่าง 1,435 คน ใน 12 พื้นที่ชุมชนทั่วประเทศเมื่อเดือนตุลาคม 2567 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีช่วงอายุระหว่าง 10-20 ปี โดย 86.3% รู้จักบุหรี่ไฟฟ้า 38.3% มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ไฟฟ้า และ 53.0% มีคนรอบตัวสูบบุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่ เพื่อน ญาติ คนที่เคารพ พ่อแม่ และครู ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง 51.7% รู้แหล่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าในชุมชน ในขณะที่ 48.3% ไม่รู้ และกว่า 91.3% พบว่าเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้โดยง่าย และเมื่อถามว่าการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนมีปัญหาต่อชุมชนหรือไม่ พบว่า 47.9% เห็นว่าเป็นปัญหามาก และ 39.7% เริ่มมีปัญหา
นายธนภัทร กล่าวต่อว่า จากการลงไปทำงานในพื้นที่กับกลุ่มเด็กและเยาวชน จะเห็นได้ว่าคนรอบตัวทั้งเพื่อน ครอบครัว และชุมชนมีส่วนสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน ซึ่งไม่แปลกที่น้องๆ เด็กๆในชุมชนจะมีเปอร์เซ็นที่การสูบบุหรี่เยอะ ด้วยวัยที่กำลังอยากรู้ อยากลอง สิ่งที่เราทำได้คือนำข้อมูลจากคุณหมอหรือหน่วยงานที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือไปสื่อสารกับน้องๆ โดยใช้กลไกของโรงเรียนเป็นพื้นที่จัดกระบวนการเสริมสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้า และลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง จนส่วนหนึ่งกล้าถอยห่างจากบุหรี่ไฟฟ้าและมาเป็นผู้สื่อสารโทษของบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเพื่อนๆ ต่อไป แต่ที่กังวลคือน้องๆ บางคนอยากเลิก หรือปฏิเสธบุหรี่ไฟฟ้า แต่คนในครอบครัวยังสูบปกติ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังในตอนนี้ เราจึงเตรียมจะเก็บข้อมูลในแต่ละพื้นที่อีกครั้งเพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

นายทรงพล จิรอัศวแก้ว ผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ กล่าวว่า ตนเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่มวนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าได้ 3 ปี เพราะราคาบุหรี่ไฟฟ้าถูกกว่า โดยบุหรี่มวนที่เคยสูบตกวันละ 80 บาท แต่บุหรี่ไฟฟ้าราคาตกอยู่ที่อาทิตย์ละ 100-200 บาท คนในครอบครัว คนใกล้ตัวก็ไม่ค่อยชอบทั้งกลิ่น และสารเคมี ตอนนี้กลุ่มเพื่อนๆ ที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็เลิกกันหมดแล้ว เพราะเห็นว่าส่งผลเสียต่อร่างกาย จนกระทั่งตนได้เจอกับตัวเอง ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด ลามไปกระเพาะ แล้วลงไปอัณฑะ หมอบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนอย่างมากกับอาการป่วยในครั้งนี้ ตนจึงตัดสินใจที่จะเลิกสูบ และอยากจะบอกกับคนที่ยังสูบอยู่ และกำลังจะกลับไปเจอครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น คุณต้องรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวน หรือบุหรี่ไฟฟ้า ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งของตัวท่านเอง อีกทั้งควันยังลอย หรือติดตามเสื้อผ้าและส่งผลเสียต่อคนใกล้ชิดได้อีกด้วย โดยเฉพาะเด็กๆ คนสูงอายุ อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ลองคิดดูว่าเราจากบ้านมาทำงานเก็บเงินตั้งใจกลับไปหาคนที่เรารัก ไปทำอาหารกินข้าวด้วยกันแต่เรากลับเอาสิ่งไม่ดีไปทำร้ายพวกเขา ผมเคยผ่านจุดนั้นมา เคยมั่นใจว่าควันจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตรายต่อตัวเองและคนอื่นซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมากๆ
“ตัวผมเองตอนนี้ก็พยายามเลิกให้เด็ดขาด มันราคาถูกจริง แต่พอเราเป็นอะไรมาไม่คุ้มกับร่างกาย และคนรอบข้าง พอหยุดบุหรี่ไฟฟ้าผมแข็งแรงขึ้น ไม่ไอ เพราะมันไอหนักมากในตอนนั้นผมรับประกันได้เลย นิโคตินมีหมดทั้งในบุหรี่มวน บุหรี่ไฟฟ้า แต่ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารบางอย่างที่มันไม่ดีต่อร่างกาย ผมถึงขนาดติดเชื้อในกระแสเลือด บางคนติดเชื้อที่ปอด อยากเชิญชวนคนที่อยากเลิกใช้โอกาสสงกรานต์นี้เริ่มต้นก็น่าจะดี” นายทรงพล กล่าว



More Stories
สคส.สั่งระงับและให้ลบข้อมูล 1.2 ล้านราย เคสสแกนม่านตาแลกเหรียญไม่ถูกหลัก PDPA พร้อมส่ง DSI ขยายผล
เซ็นทารา และ NUO International ผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์ เดินหน้าขยายธุรกิจสู่เวทีโลก
ViewSonic จัด The 6th ColorPro Awards 2025 ธีม “FLOW” นำเสนออนาคตแห่งเทคโนโลยีจอภาพ ผ่านศิลปะ นวัตกรรม และประสบการณ์เหนือระดับ