โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (THE RITZ–CARLTON, BANGKOK) พร้อมมอบประสบการณ์การบริการและวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยโรงแรมแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงแรมหรูในเครือ Marriott International ตั้งอยู่ในอาคารสูง 216 เมตร ภายในโครงการวัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ครบครัน เป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ระดับโลก เจาะกลุ่มนักช้อปและนักเดินทางยุคใหม่ ด้วยแรงบันดาลใจจากบ้านไทยหลังใหญ่บนถนนวิทยุ สู่โรงแรมแห่งใหม่ที่มีห้องพักรองรับกว่า 260 ห้อง นำเสนอการพักผ่อนแบบผ่อนคลาย และความงดงามของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมมาสู่ใจกลางเมือง บริเวณสี่แยกถนนวิทยุและถนนพระราม 4 ใกล้สวนลุมพินีด้วยทิวทัศน์ที่ผ่อนคลายและมีชีวิตชีวา ตัดความวุ่นวายของมหานคร เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าจดจำและการบริการที่เข้าใจผู้มาเยือนอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองของกรุงเทพฯ
ทีน่า ลิว (Tina Liu) ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ กล่าวว่า “เราตั้งใจรังสรรค์สัญลักษณ์ใหม่แห่งความหรูหราและความงดงามทางวัฒนธรรมที่ไม่มีวันลืมเลือนบนทำเลใจกลางกรุง พร้อมเผยโฉมโรงแรมพร้อมมอบประสบการณ์อันน่าจดจำ และการบริการที่เข้าใจผู้มาเยือนอย่างแท้จริงกับโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (THE RITZ–CARLTON, BANGKOK) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการบุกตลาดโรงแรมหรูที่ผสมผสานศิลปะระหว่างศิลปะไทยดั้งเดิมและการออกแบบร่วมสมัย สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยในช่วงวันหยุดขึ้น ปีใหม่ที่จะถึงนี้ (ปลายเดือน ธ.ค. 2567 ถึงต้นเดือน ม.ค. 2568) โรงแรมคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเข้าพักเกือบเต็มทุกห้อง แบ่งสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นชาวต่างชาติจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่มีความตั้งใจมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในโครงการวัน แบงค็อก โดยเราได้เตรียมความพร้อมของห้องพักเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า ดังนี้ เริ่มต้นด้วยห้องพักอย่าง Deluxe Room พื้นที่ 50 ตารางเมตร ห้อง Gardenia Suite ที่ตกแต่งอย่างประณีตอันน่าหลงใหล บนพื้นที่ 102 ตารางเมตร หรือห้อง Marigold Suite และ Amaranth Suite ขนาดพื้นที่ 127 ตารางเมตร นอกจากนี้เรายังมี The Ritz-Carlton Suite เพนท์เฮาส์พื้นที่ใหญ่ที่สุด 389 ตารางเมตร ที่สามารถรองรับและสร้างประสบการณ์พักผ่อนช่วงวันหยุดแสนพิเศษแบบสุดหรู”
โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (THE RITZ–CARLTON, BANGKOK) เป็นการผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของไทยเข้ากับความสง่างามเหนือกาลเวลาของ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน และการออกแบบที่ล้ำสมัย ไม่เพียงแต่ยกระดับภูมิทัศน์ความหรูหราของเมืองนี้ แต่ยังมอบประสบการณ์ที่แท้จริงและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักสัมผัสสิ่งใหม่ ๆ อีกด้วย
โดยสถาปนิกผู้มีวิสัยทัศน์จากบริษัท SOM ในชิคาโก และบริษัท A49 ของประเทศไทย ได้ออกแบบภายนอกอาคารให้มีเฉลียงแบบเปิดที่ไล่ระดับขึ้นอย่างงดงาม ซึ่งให้มุมมองที่กว้างไกลไปจนถึงสวนลุมพินีและเส้นขอบฟ้าของเมือง ส่วนภายในนั้น บริษัทออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของไทยอย่าง PIA ได้สร้างสรรค์พื้นที่ที่สะท้อนถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของโรงแรมe เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ผ่านการตกแต่งที่แฝงไปด้วยความหรูหราซึ่งไร้กาลเวลาและความทันสมัยที่ลงตัว
แรงบันดาลใจจากแนวคิด “สองอารยธรรมผสานเป็นหนึ่ง” ทำให้โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โอบรับความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงอันเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและเรื่องราวอันน่าประทับใจ ย้อนไปในช่วงปี ค.ศ.1800 ประเทศไทยได้ผสมผสานประเพณีที่หวงแหนเข้ากับอิทธิพลจากนานาอารยประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ ถนนวิทยุ ซึ่งเคยเป็นเคหสถานของเหล่าขุนนางไทย กลายเป็นประตูสู่ยุคใหม่ของการเดินทางและการสำรวจ โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ก็สะท้อนถึงวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวานี้ผ่านมุมมองอันงดงามเพื่อเชิญชวนแขกสู่โอเอซิสที่ทันสมัยและเงียบสงบ เมื่อมาถึง แขกจะผ่านประตูโค้งที่โอ่อ่าเข้าสู่โถงทางเข้าและ Arrival Hall หรือห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะต้นฉบับและภาพถ่ายขาวดำ ให้บรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนบ้านพักส่วนตัว
ด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยดั้งเดิมและการออกแบบร่วมสมัย ห้องพักและห้องสวีทของโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเปิดรับทิวทัศน์อันงดงาม ขณะที่ห้องพักหลายห้องมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สีเขียวชอุ่มของสวนลุมพินี โดยผู้เข้าพักสามารถเลือกห้องพัก Deluxe Room ขนาดกว้างขวาง 50 ตารางเมตร ห้องสวีท Gardenia Suite ที่ตกแต่งอย่างประณีตบนพื้นที่ 102 ตารางเมตร หรือห้องสวีท Marigold และ Amaranth Suite ที่น่าหลงใหล ในขนาด 127 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมี The Ritz-Carlton Suite เพนท์เฮาส์ขนาด 389 ตารางเมตร ที่มอบประสบการณ์พักผ่อนสุดหรูอันเป็นเอกลักษณ์
The Club Lounge ตั้งอยู่บนชั้นที่ 23 เป็นพื้นที่พักผ่อนสุดพิเศษและอบอุ่นที่ประดับด้วยผลงานล้ำค่าซึ่งคัดสรรมาจากแหล่งท้องถิ่น มอบบรรยากาศแห่งความเป็นส่วนตัวและความประณีต โดยห้องรับรองนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์ The Ritz-Carlton Club ที่เสิร์ฟอาหารห้าช่วงเวลาต่อวันในบรรยากาศอันเงียบสงบ รวมถึงการเช็คอินที่สะดวกสบายโดยมี Club Concierge และสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักที่ออกแบบเฉพาะเพื่อบริการที่เป็นส่วนตัว
เพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ นำทุกท่านท่องไปในโลกของรสชาติและบรรยากาศที่แตกต่างกันสามแห่ง โดยแต่ละแห่งมีสไตล์ในรสชาติและบรรยากาศเฉพาะตัว
Duet by David Toutain โดยเชฟมิชลินสตาร์ชื่อดัง David Toutain ร่วมกับ หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร เชฟ Valentin Fouache ให้บริการอาหาร Modern French Cuisine ภายในเรือนกระจกที่งดงาม คอนเซ็ปต์ที่ล้ำสมัยนี้สำรวจความกลมกลืนระหว่างอาหารและธรรมชาติ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันผสานกับศิลปะการทำอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดึงดูดประสาทสัมผัสอย่างสมบูรณ์แบบLily’s ร้านอาหารที่มีชีวิตชีวาและคึกคัก นำเสนอเมนูคลาสสิกในรูปแบบใหม่ด้วยการเพิ่มสไตล์ที่ร่วมสมัย มีจานอาหารที่ปรับแต่งได้ตามใจชอบสำหรับการแชร์ร่วมกัน พร้อมด้วยองค์ประกอบแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ทำให้ผู้รับประทานมีส่วนร่วมในการสร้างความทรงจำสำหรับการรับประทานที่แปลกใหม่และน่าจดจำ Caleō ซึ่งมาจากภาษาละตินที่หมายถึง ‘การตกหลุมรัก’ แสดงถึงแก่นแท้ของการดื่มด่ำและความโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เลานจ์สุดหรูนี้ชวนแขกให้เพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่ายที่สง่างาม หรือค็อกเทลยามค่ำที่มีความโดดเด่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างมีศิลปะ พร้อมมอบความสุขหลากมิติให้กับประสาทสัมผัส
The Ritz-Carlton Spa เป็นสถานที่แห่งความสงบสุขให้แขกสามารถฟื้นฟูจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ ด้วยห้องทรีตเมนต์หรู 5 ห้อง ห้องสปาสวีทสำหรับคู่รัก และ Relaxing Pod พร้อมศูนย์ออกกำลังกายทันสมัยที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายท่ามกลางความเขียวขจี โดยมีสระว่ายน้ำสองสระ รวมถึงสระว่ายน้ำสำหรับเด็กที่จัดไว้โดยเฉพาะ ในขณะเดียวกัน นักสำรวจตัวน้อยจะได้เพลิดเพลินและสนุกสนานที่ Ritz Kids Club ซึ่งมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความร่าเริงรอคอยอยู่
The Ritz-Carlton Grand Ballroom ห้องบอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง รองรับแขกได้สูงสุดถึง 1,200 คน ด้วยพื้นที่จัดงานที่จัดสรรขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องจัดเลี้ยงอเนกประสงค์เก้าห้องที่ปรับเปลี่ยนได้ เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานอีเวนท์องค์กร และกาล่าดินเนอร์ โดยมีพื้นที่ Pre-Function และระเบียงกลางแจ้ง นอกจากนี้ห้อง บอลรูมหลักยังมีจอ LED สามจอ เพื่อเสริมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทุก ๆ งาน
โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เชื่อมโยงการเข้าพักสุดหรูเข้ากับการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นผ่านกิจกรรมพิเศษประจำวันสำหรับแขกผู้มีเกียรติ หนึ่งในนั้นคือ Defining Moment ซึ่งเชิญชวนแขกไปที่ระเบียงเพื่อสัมผัสกับการตีความใหม่ของพิธี “กลองยาว” ประจำวัน เสียงที่ก้องกังวานนี้แสดงถึงการเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองยามเย็น โดยกิจกรรมต่าง ๆ สนับสนุนให้วันอันน่าจดจำนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน เช่น การออกกำลังกายไทเก็กยามเช้า “Terrace Chi” กับทัศนียภาพสวนสาธารณะใจกลางเมือง การทัวร์เชิงสร้างสรรค์ “New Generation” ของ One Bangkok Art Loop กิจกรรมทำดอกไม้แห้ง “Lasting Impression” สำหรับเด็ก ๆ และค็อกเทล “Golden Hour” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวและมรดกอันน่าหลงใหลของกรุงเทพฯ
เริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นพบวัฒนธรรมใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยที่ โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ โดยสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.theritzcarltonbangkok.com
More Stories
ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน จัดใหญ่ “โป๊ยเซียนกาชาปองยักษ์” มอบเป็นของขวัญและความสุข ในงาน Siam Street BIG RETURN 2024
จุฬา และ สสว. ลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการ “One Click” นำ AI ยกระดับ SMEs เข้าถึงสินเชื่อสีเขียวในคลิกเดียว
เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ กวาดรางวัลการันตีตลอดปี 2024สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมจากหลากหลายเวที ทั้งด้านการออกแบบ ห้องอาหาร และสปา