• ประกาศขยายวันปิดให้บริการชั่วคราวตามประกาศภาครัฐ 15 สาขา ถึง 30 เม.ย. 63
• ซูเปอร์มาร์เก็ต (เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์) ยังคงเปิดให้บริการตามเวลาปกติของแต่ละสาขา
• พร้อมอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตในช่วงนี้อย่างเต็มที่ ด้วยบริการ Drive Thru ลูกค้ามารับสินค้าด้วยตัวเอง และบริการ Food Delivery Pick-up counter
กรุงเทพฯ – วันนี้ (31 มีนาคม 2563): ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ขอประกาศปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการใหม่เป็น เวลา 11.00 – 20.00 น. ทุกวัน พร้อมกันทุกศูนย์ฯ ทั่วประเทศ โดยซูเปอร์มาร์เก็ต (เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์) ยังคงเปิดให้บริการตามเวลาปกติ สามารถเช็คเวลาเปิด-ปิดของแต่ละสาขาได้ที่ www.topsmarket.tops.co.th และ www.centralfoodhall.com พร้อมกันนี้ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลฯ ได้ขยายวันปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวใน 15 สาขา ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ตามประกาศเพิ่มเติมจากผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ เรื่องการขยายเวลาปิดสถานที่ต่างๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเป็นการชั่วคราว เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ในวงกว้าง โดยทั้ง 15 สาขา มีดังต่อไปนี้
• เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, รามอินทรา, บางนา, พระราม 2, พระราม 3, แกรนด์ พระราม 9, ศาลายา, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563
• เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์ และลำปาง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2563
• เซ็นทรัล ภูเก็ต จะมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563
ทั้งนี้ สำหรับธุรกิจบางประเภทที่เปิดให้บริการได้ตามปกติตามประกาศกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ได้แก่
1) ร้านขายยา รวมทั้ง Boots, Watsons
2) ร้านขายอาหารสัตว์ และร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (เช่น แฟมิลี่มาร์ท)
3) ร้านอาหารเฉพาะการจำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น (Take Away หรือ Delivery)
4) ธนาคารในศูนย์การค้า ตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด หากสาขาใด มีการประกาศก็จะปฏิบัติตามในทิศทางเดียวกัน
5) ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือหรือระบบสื่อสาร ตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด หากสาขาใด มีการประกาศก็จะปฏิบัติตามในทิศทางเดียวกัน
6) และอื่นๆ ตามที่อาจจะมีการประกาศเพิ่มเติม
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ได้อย่างสะดวกสบายที่สุด ด้วยบริการ Drive Thru ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ หรือ ช่องทางออนไลน์ แล้วมารับสินค้าด้วยตัวเอง และบริการ Food Delivery Pick-up counter ที่ให้ร้านค้ามารับ Delivery และ Take Away ภายใต้การคุมเข้มมาตรการ Social distancing จัดระเบียบที่นั่งให้พนักงาน Delivery ที่มานั่งรอรับอาหารมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร เน้นปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของพนักงานรับส่งอาหาร ลูกค้าและผู้มาใช้บริการทุกคน ทำความสะอาดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน ตรวจคัดกรอง วัดไข้พนักงาน, ร้านค้า และพนักงานบริการ delivery ทุกคน รวมทั้งให้ทุกคนสวมใส่หน้ากาก และใช้เจลแอลกฮอล์ล้างมือก่อนเข้าศูนย์ฯทุกครั้ง
สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการบางส่วนตามข้างต้น รวม 32 สาขา ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล: เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, เซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย และ เซ็นทรัล วิลเลจ และสาขาต่างจังหวัด: เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย, เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง, เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี, เซ็นทรัลเฟสติ
More Stories
สตาร์ทขุมพลังแรงขับเคลื่อนกับ “DRIVEN” นิทรรศการและการประมูลงานศิลปะจาก The Art Auction Center
การใช้โบลเวอร์อุตสาหกรรม ในระบบอุตสาหกรรมยุคใหม่
PDPC มอบหนังสือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหนังสือสาระน่ารู้เกี่ยวกับ PDPA ให้แก่ สถาบันพระปกเกล้า