November 24, 2024

www.thainewsbiz.com

ครบธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว แลไลฟ์สไตล์

อยากดู ต้องได้ดู!!! บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จับมือ AIS PLAY ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกให้แฟนบอลมือถือทุกค่ายเชียร์ได้สุดมันส์ลุ้นแบบชิดติดขอบจอ ทั้งชมสด และย้อนหลัง

28 ตุลาคม 2563 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลชั้นนำ จับมือร่วมกับ AIS PLAY ผู้นำ Streaming Service Provider ความบันเทิงครบวงจร เอาใจแฟนบอล เพิ่มช่องทางรับชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก แบบสดๆ และย้อนหลัง ส่งตรงถึงหน้าจอให้คนไทยทุกคน ดูฟรีทุกเครือข่าย ผ่านช่องทาง AIS PLAY ได้หลากหลายช่องทาง ทั้งแอปพลิเคชัน AIS PLAY, กล่อง AIS PLAYBOX, เว็บไซต์ aisplay.ais.co.th, APPLE TV และ Samsung Smart TV เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ และอำนวยความสะดวกตามยุคสมัยที่ผู้บริโภค “อยากดู ต้องได้ดู”

บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด และ  เอไอเอส บรรลุข้อตกลงในการขายสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 (T1) ผ่านระบบ OVER THE TOP (OTT) หรือการถ่ายทอดสดแบบสตรีมมิ่งให้แก่ AIS PLAY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนบอลยุค Tech savvy ที่ต้องการเข้าถึง content ต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา แบบไร้ขีดจำกัด

โดย นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด เปิดเผยถึงการตกลงขายสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ว่า “การมีเอไอเอส เข้ามาเป็นพันธมิตรในครั้งนี้นั้น ทำให้สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโอกาสในการเข้าถึงแฟนบอลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าทุกคนทำทุกอย่างผ่านมือถือ การเสพสื่อทั้งสาระ และสื่อที่ให้ความบันเทิง ต่างก็ผ่านมือถือทั้งสิ้น การที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในวันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลแบบนี้ จึงเป็นสิ่งที่สโมสรให้ความสำคัญ โดยเราพยายามมองหาพันธมิตรที่มีความเข้าใจ และเห็นเป้าหมายเดียวกับเราในการพัฒนาประสบการณ์การรับชมการแข่งขันฟุตบอลให้ดียิ่งขึ้น ง่ายยิ่งขึ้น และไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย ซึ่งแฟนบอลจะได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก จากการจับมือทำงานร่วมกันครั้งนี้”

ด้าน นายอลิสแตร์ เดวิด จอห์นสตั้น กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจพัฒนาธุรกิจใหม่ เอไอเอส กล่าวว่า “AIS PLAY  ในฐานะผู้นำ Streaming Service Provider ความบันเทิงครบครันที่แตกต่าง และโดนใจคนไทยทั้งประเทศ เรามุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสรรหาคอนเทนต์ที่ครบครัน และตอบโจทย์เพื่อลูกค้าและคนไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเทนต์ด้านกีฬา ครั้งนี้เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นสโมสรชั้นนำระดับประเทศ ส่งมอบประสบการณ์การชมถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก แบบสดๆ และย้อนหลัง ให้คนไทยทุกเครือข่าย ทั้งประเทศสามารถร่วมเชียร์ และลุ้นแบบชิดติดขอบจอได้ตลอดการแข่งขันผ่านช่องทางทั้งหมดของ AIS PLAY”

ด้าน นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง กล่าวเสริมอีกว่า “สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของเราคิดว่านอกเหนือจากการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางฟรีทีวี ที่แฟนบอลสามารถรับชมได้ตามปกติแล้ว การรับชมการแข่งขันผ่านแอพพลิเคชั่น AIS PLAY ก็จะเป็นอีกทางเลือก ที่จะสามารถช่วยให้แฟนบอลเราที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้าถึงสโมสรได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทางในขณะที่ทุกท่านยังอยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะกำลังเดินทาง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ อยู่ ก็สามารถรับชมผ่านมือถือได้ทันที ทั้งง่าย ทั้งสะดวก ผมมั่นใจว่าประสบการณ์การรับชมฟุตบอลจะดีขึ้น ที่สำคัญแฟนบอลสามารถรับชมได้ไม่ว่าคุณจะใช้เครือข่ายไหน ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรให้ยุ่งยาก”

สำหรับแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และแฟนบอลทั่วไป สามารถรับชมการแข่งขันทุกแมตช์ แบบสดๆ และย้อนหลัง ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ที่ AIS PLAY ได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง เว็บไซต์ aisplay.ais.co.th,กล่อง AIS PLAYBOX, APPLE TV และ Samsung Smart TV หรือแอปพลิเคชัน AIS PLAY บนมือถือ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น AIS PLAY ผ่านช่องทาง Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ android และ App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เกี่ยวกับ AIS PLAY

AIS PLAY ผู้ให้บริการ Streaming Service Provider ความบันเทิงครบครันในประเทศไทย ด้วยความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์ที่แตกต่างและโดนใจคนไทยทั้งประเทศ โดยได้คัดสรรความบันเทิงจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งหนัง ซีรีส์ คอนเสิร์ต กีฬา อีสปอร์ต การ์ตูน วาไรตี้ พร้อมให้คนไทยรับชมอย่างจุใจ ผ่านทุกช่องทาง AIS PLAY ได้แก่ แอปพลิเคชัน AIS PLAY, กล่อง AIS PLAYBOX, เว็บไซต์ https://aisplay.ais.co.th, APPLE TV และซัมซุงสมาร์ททีวี ดูได้ทุกเครือข่าย โดย AIS PLAY เป็นบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุด พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ปัจจุบันครอบคลุม 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.ais.co.th/play/