ลักชัวรี่ คลินิก (Luxury Clinic) ธุรกิจเสริมความงามและศัลยกรรมตกแต่งชั้นแนวหน้าของไทยปรับโครงสร้างองค์กร หลังได้นักลงทุนมืออาชีพกลุ่มใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจ รับเทรนด์ธุรกิจเวลเนสเติบโตทั่วโลก เตรียมยกระดับธุรกิจสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมความงามและสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนแผนขยายธุรกิจสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
นางสาวพันธิวา พงษ์ศักดิ์ศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลักชัวรี่ คลินิก ผู้มีประสบการณ์คร่ำวอดในธุรกิจสุขภาพและความงามกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านสุขภาพเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก Global Wellness Institute (GWI) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรที่เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจการดูแลสุขภาพคาดการณ์ว่า มูลค่าของเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพของโลก (Global Wellness Economy) จะแตะ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 266 ล้านล้านบาท ในปี 2568 โดยกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการดูแลตัวเอง ความสวยงาม การชะลอวัย (Personal Care & Beauty) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 9.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 36 ล้านล้านบาท
“แนวโน้มธุรกิจความงามและการชะลอวัยในประเทศไทยจะมีการเติบโตสอดคล้องกับทั่วโลกเช่นกัน จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในธุรกิจความงามและศัลยกรรมความงาม ลักชัวรี คลินิก มองเห็นโอกาสและตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจความงามและสุขภาพที่ครบวงจรอย่างยั่งยืน เราวางแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกมิติทั้งการเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมและศูนย์ความงามแบบครบวงจรเพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ การพัฒนาคลินิกเสริมความงามที่มีอยู่ 7 สาขาในปัจจุบัน และการมองหาโอกาสที่จะเติบโตในตลาดใหม่ เช่น CLMV
“ล่าสุด ลักชัวรี่ คลินิกได้ตกลงกับนักลงทุนกลุ่มใหม่ให้เข้ามาถือหุ้น 60% ในลักชัวรี่ คลินิก เพื่อเสริมความแกร่ง และสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยนักลงทุนกลุ่มใหม่เป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงและเป็นผู้บริหารของกลุ่ม WRS Group ผู้ให้บริการลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์ชั้นนำของไทย ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงในด้านการจัดการด้านไลฟ์สไตล์ให้กับกลุ่มลูกค้าระดับมั่งคั่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ การทำงานร่วมกับพันธมิตรใหม่จะช่วยสนับสนุนให้ลักชัวรี คลินิกมีความพร้อมมากขึ้นในการสร้างสรรค์บริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ สามารถขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมถึงลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่งในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV ซึ่งเป็นจุดแข็งของ WRS Group ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ลักชัวรี คลินิมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต” พันธิวากล่าว
นายจักรพันธ์ รัตนเพชร ผู้นำกลุ่มนักลงทุนจาก WRS Group เปิดเผยว่า “ลักชัวรี คลินิกมีธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียง และโดดเด่นด้านคุณภาพในการให้บริการ การที่เราเข้ามาร่วมลงทุนในลักชัวรี คลินิกจะส่งเสริมธุรกิจของทุกฝ่ายโดยเฉพาะการมุ่งเป้าหมายไปที่การขยายตลาดในภูมิภาค CLMV และการยกระดับประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งซึ่งเป็นลูกค้าหลักและมีศักยภาพสูง ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี”
ลักชัวรี คลินิกดำเนินธุรกิจคลินิกเสริมความงามและดูแลรักษาผิวพรรณมานานกว่า 10 ปี โดยยึดมั่นแนวคิด “ทุกความสวยเป็นไปได้” และให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของการรักษาด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีการพัฒนาความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก อย. และการสร้างประสบการณ์ในการบริการที่เข้าถึงลูกค้าทุกราย
ในปี 2565 ลักชัวรี คลินิกมีรายได้จากการขายและการให้บริการรักษาพยาบาลรวม 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20% และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในปี 2566 เป็น 400 ล้านบาท หลังจากกลุ่มนักลงทุนและผู้บริหารใหม่เข้ามาเสริมทัพแล้ว จะขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งมากขึ้น เริ่มจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านความงามภายใต้แบรนด์ “ลา เฟลอร์” (La fleur) และศูนย์เวลเนส (Wellness Center) ระดับโลกที่จะรวบรวมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเฉพาะทาง
Luxury Clinic เป็นคลินิกเสริมความงานอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และได้รับการยกย่องจากสถาบันชั้นนำระดับนานาชาติผ่านรางวัลคุณภาพมากมายทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดได้รับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับรางวัลระดับเอเชียแปซิฟิก Elite Skin Center Clinic Award 2023 จากบริษัท Menarini Asia Pacific ประเทศอิตาลี ผู้ผลิตคิดค้นผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อความงาม ในงาน MENARINI Infinity Night 2023 ที่ผ่านมา ตลอดจนรางวัลระดับประเทศ อาทิ Top 5 Premium Clinic 2023 จากบริษัท Galderma Aesthetics Thailand รางวัล Rose Gold Award 2023 จากบริษัท BCJ Healthcare และรางวัล Top Spender Awards 2022 จากบริษัท Aestema
More Stories
ชาเมียร์ จับมือ THE NEXT เปิดตัวเลนส์แว่นตาอัจฉริยะ SHAMIR DRIVER INTELLIGENCE™ นวัตกรรมใหม่ในวงการแว่นตา
น้ำมันพืช ตราเกสร จุดประกายความอร่อยแบบรักษ์โลก เจ้าแรกของน้ำมันพืชใช้ขวด rPET ยึดหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
SCGC ทุ่ม 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนใน LSP คอมเพล็กซ์ เวียดนาม