สร้างความคึกคักให้วงการร้านอาหารในเมืองไทย เมื่อ Red Lobster (เร้ด ล็อบสเตอร์) เชนร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ เพื่อให้เหล่าฟู้ดดี้ชาวไทยได้ลิ้มลองอาหารซีฟู้ดคุณภาพดี โดยเฉพาะเมนูล็อบสเตอร์ในตำนานในราคาที่เป็นมิตรแบบมาแล้วต้องกลับมาซ้ำ
ร้าน Red Lobster มาพร้อมคอนเซปต์ Friends & Family บรรยากาศอบอุ่นเป็นมิตรสไตล์อเมริกันที่ดูทันสมัย ส่วนการตกแต่งร้านดูโมเดิร์น เน้นการใช้เส้นสายและโทนสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล เกลียวคลื่น เติมความสนุกด้วยป้ายไฟนีออน อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญ คือ ทางร้านเน้นคุณภาพและความสดของวัตถุดิบ โดยเฉพาะล็อบสเตอร์ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งสูตรการปรุงเฉพาะของทางร้าน ตลอดจนบริการแบบมืออาชีพ ทีมครัวและระบบทุกอย่างมาจากสาขาแม่ทั้งสิ้น
ในฐานะกรรมการ บริษัท เร้ด ล็อบสเตอร์ รีเทล เอเชีย จำกัด คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล แนะนำเมนูไฮไลต์ “แน่นอนว่าต้องเริ่มที่พระเอกอย่างล็อบสเตอร์ กับเมนู ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์ (Live Maine Lobster) ทางร้านใช้ล็อบสเตอร์เป็นๆ นำเข้าจากประเทศแคนาดา จุดเด่นของล็อบสเตอร์สายพันธุ์นี้ คือ ขนาดตัวโต ก้ามใหญ่ น้ำหนักประมาณ 550 – 600 กรัม เนื้อนุ่มมากที่สุดในหมู่ล็อบสเตอร์ เพราะเป็น ล็อบสเตอร์จากน่านน้ำทะเลแอตแลนติค อาศัยอยู่ในกระแสน้ำเย็น เนื้อล็อบสเตอร์จึงหวานกว่าล็อบสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำอุ่น เพราะไม่ซึมซับความเค็มของเกลือในทะเล นำมาปรุงด้วยวิธีการนึ่งไอน้ำ จึงทำให้เนื้อ ล็อบสเตอร์คงความสด เนื้อสัมผัสนุ่ม ทานคู่กับบัตเทอร์ซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน หรือใครอยากจะทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ผสมผสานความแซ่บแบบไทยๆ ทางร้านก็มีบริการให้ น้ำจิ้มซีฟู้ดนี้รับรองเป็นหนึ่งเดียวในโลก ไม่มีสาขาไหนมีแน่นอนค่ะ หรือถ้าชอบรสชาติเข้มข้น แนะนำไลฟ์ ล็อบสเตอร์ เทอร์มิดอร์ (Live Lobster Thermidor) ล็อบสเตอร์สดๆ ปรุงรสด้วยซอสเทอร์มิดอร์ นำไปอบจนสุกกำลังดี เพื่อให้ส่วนผสมแทรกซึมเข้ากับเนื้อล็อบสเตอร์ ให้รสชาติหอมมันจากชีสและสมุนไพรหลากหลายชนิด
หรือหากใครอยากทานทั้งล็อบสเตอร์และสปาเก็ตตี้ ต้องเมนูสปาเก็ตตี้ อัลกลิโอ โอลิโอ วิท เบคอน & ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์ (Spaghetti Aglio Olio with Bacon & Live Maine Lobster) สปาเก็ตตี้พริกกระเทียม เข้มข้น หอมพริก กระเทียม เสิร์ฟพร้อมเบคอน และไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์ อร่อยลงตัวในจานเดียว
นอกจากนั้นยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลองอย่าง ล็อบสเตอร์ บิสก์ (Lobster Bisque) ซุปครีมล็อบสเตอร์เข้มขัน เนื้อเนียน เสิร์ฟมาในแป้งพัฟกรุบกรอบ และ ดูโอ ล็อบสเตอร์ เทล (Duo Lobster Tails) ส่วนหางของล็อบสเตอร์ เนื้อแน่น นุ่ม เสิร์ฟเป็นคู่ มีสองรสชาติ แบบคลาสสิคปรุงรสด้วยเนย กระเทียม และแบบปรุงรส ปรุงด้วยซอสเทอร์มิดอร์ ปิดท้ายด้วย เชดดาร์ เบย์ บิสกิต (Cheddar Bay Biscuits) เมนูซิกเนเจอร์ของร้านมาตั้งแต่ปี 1992 เป็นเมนูยอดนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามายาวนาน เมื่อพูดถึง Red Lobster ลูกค้าทุกคนจะนึกถึงเชดดาร์ เบย์ บิสกิตเป็นอันดับแรก จนกลายเป็นเมนูสัญลักษณ์ของร้าน เชดดาร์ เบย์ บิสกิตทุกชิ้นอบสดใหม่ทุก 15 นาที ใช้แป้งสูตรเฉพาะของทางร้านผสมกับเชดดาร์ชีสคุณภาพดี เคลือบด้านบนด้วยเนยกระเทียมสูตรพิเศษ ทำให้ได้ บิสกิตชุ่มเนยและชีสอบร้อนๆ รับรองว่าถูกใจฟู้ดดี้ชาวไทยแน่นอนค่ะ”
นอกจากนั้นทางร้านยังมีเมนูความอร่อยหลากหลายที่ไม่ใช่แค่ล็อบสเตอร์ อาทิ US Angus Ribeye Steak, Wagyu Bacon Cheeseburger, Salmon New Orleans เป็นต้น รวมทั้งขนมหวานและเครื่องดื่มครบครันอาทิFlambe Burnt Cheesecake with Walnut and SangSom Caramel Sauce เบิร์น ชีสเค้ก ที่ไม่ธรรมดา เสิร์ฟพร้อมวอลนัทและโฮมเมด รัม คาราเมลซอส ราดด้วยเหล้ารัม และจุดไฟเพื่อลดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ยังคงความหอมจากเหล้ารัมหลังจากแอลกอฮล์ระเหยไปแล้ว Signature Strawberry Shortcake เสิร์ฟพร้อมสตรอว์เบอร์รี่สด ซอสสตรอว์เบอร์รี่ และวิปครีมหอมละมุน
ปักหมุดความอร่อยที่ Red Lobster ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00–22.00 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น G สามารถจองโต๊ะและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 062-243-8237 หรือ Line Official Account: @redlobster_th และสามารถติดตามโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ Facebook Page: Red Lobster Thailand
More Stories
รีวิวร้านอาหารริมแม่น้ำ (บ้านชิดกรุง) กุ้งเผา
สายเกาและสายกินไม่ควรพลาด!! Spice Boy ไก่ทอดต้นตำรับจากเกาหลี โดยฝีมือเชฟระดับมืออาชีพจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ชวนสัมผัสความมหัศจรรย์ดินแดนมังกรใจกลางเมือง “SHU DAXIA สาขา MBK”