November 22, 2024

www.thainewsbiz.com

ครบธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว แลไลฟ์สไตล์

“อารีรัตน์ กฤษณะสมิต” นำเทรนด์สื่อสารกับสัตว์ ด้วยศาสตร์ Animal Communication ที่บอกเลยว่าคนรักสัตว์เลี้ยงไม่ควรพลาด!!

ถือเป็นศาสตร์ใหม่ที่จะมาเปิดโลกทัศน์สำหรับเจ้าของที่รักสัตว์เลี้ยงมากๆ สำหรับ ศาสตร์ Animal Communication ที่ดูคล้ายกับศาสตร์หมอดูของคนแต่ใช้กับสัตว์เลี้ยง ซึ่ง “คุณไก่ – อารีรัตน์ กฤษณะสมิต” ผู้บริหารแบรนด์เครื่องประดับสุดหรู เลือกที่จะศึกษาด้วยตัวเอง เพราะเสียสุนัขสุดที่รักไป ล่าสุดคุณไก่ยังได้รับเชิญร่วมแถลงข่าว เปิดคัดนักแสดง ซีรี่ย์ “Love Pets Club” (เพื่อนซี้หัวใจพูดได้) ที่เซ็นทรัลอีสวิว อีกด้วย

ตัวพี่เองเป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขค่ะ ก็มีเลี้ยงไว้ที่บ้าน 2 ตัว ทางผู้จัดซีรี่ส์ทราบว่าพี่รักสัตว์และเลี้ยงสุนัข ก็เลยเชิญมาร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้ค่ะ “ปกติศาสตร์ animal communication นี้เราจะไม่ดูกับคนนะคะเพราะว่านอกจากคนจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นอะไรยังไง แล้วมาถามยังหมายรวมไปถึงว่าคนจะมีกรรมมากกว่าสัตว์ มีบาปมากกว่าสัตว์เพราะอันนี้ถ้าจะให้บอกก็คือเราไม่ใช่หมอดูเป็นการจูนคลื่นวิทยุให้เรากับสัตว์อยู่ในคลื่นเดียวกัน” อารีรัตน์ กฤษณะสมิต…เกริ่นนำก่อนเล่าต่อว่า..

อาจารย์ของพี่ต้องเรียกว่าเป็นนัมเบอร์วันของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตอนไปเรียนที่นั่นก็จะมีเป็นกลุ่มที่เค้าเรียนเรื่องนี้ซึ่งทุกคนก็จะเอาสัตว์เลี้ยงตัวเองให้เพื่อนเพื่อนมาทดลองกัน เพราะการที่เราสื่อกับสัตว์เราต้องใช้ennergy exchange เพราะการที่คนมาใช้บริการหรือการที่เราบริการคนที่นั่นจะประมาณ 4 ดอลล่าร์ต่อสามคำถาม แต่การที่เราทำในกลุ่มเพื่อนเดียวกันก็อาจจะแค่เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำเลี้ยงกาแฟหรือฝากเงินไปทำบุญ ซึ่งจริงๆ แล้วการแลกเปลี่ยนหรือการใช้ Animal คอมมิวนิเคชั่นนั้นไม่ได้ทำได้เฉพาะสุนัขกับแมวหรือหมากับแมวแต่เราสามารถทำกับสัตว์ได้เกือบทุกชนิด

ต้องบอกว่าจริงๆ ศาสตร์นี้มีมานานแล้ว แล้วก็ได้รับการยอมรับทั่วโลกด้วย มีสมาคมที่ตั้งอยู่ประเทศ สวิสเซอร์แลนด๋ International Professional Animal Communication Association (IPACA) แต่ว่าในประเทศไทยยังไม่มีคนที่เข้าใจมันจริงๆ อย่างของคุณ Ezekiel Ong อาจารย์ เองเขาเรียนสายตรง มาจาก คุณ Rosina เป็นคน Italian ที่ริเริ่มศาสตร์ animal communication ท่านเสียไปแล้วนะค่ะ และคุณ EZE ก็อยู่ในสายนี้ มาเป็น 11 ปีแล้ว อีก 2 ปีคุณก็จะเรียนจบสัตว์แพทย์ด้วย คุณก็ช่วยมาเป็นพันๆ เคส เขามีชื่อเสียงมากในเอเชียและสิงคโปร์ พวกเรารู้จักเขาเพราะเคยเป็นลูกค้ามาก่อนและก็สนใจศาสตร์นี้ด้วยเลยไปเรียนกับเขา

ศาสตร์นี้จำเป็นต้องนั่งสมาธิทุกวันเพื่อให้จิตนิ่งเพื่อสื่อสารกับสัตว์จะได้ไม่พลาด?

การที่เราจะสื่อกับสัตว์พวกนี้สิ่งสำคัญเลยเราต้องนั่งสมาธิทุกวัน เพราะนอกจากเราจะใช้สมาธิแล้วเราต้องต้องใช้เรกิซึ่งเรกินั้น คนจะรู้จักในแบบที่เรียกกันว่าพลังจักรวาล เค้าจะเรียกกันว่า เรกิ ฮิลลิ่ง เป็นศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น อันนี้เป็นศาสตร์ใหม่สำหรับประเทศไทยแต่ที่อื่นเค้ามีมานานแล้ว การที่เรานั่งสมาธิเพื่อให้จิตเรานิ่งเพราะการที่เรารับสารจากสัตว์มาถ่ายทอดให้คนมันจะได้ชัดเจน

เปรียบให้เห็นภาพก็จะคล้ายกับภาพยนต์เรื่องอวตาร์ที่ก่อนที่พระเอกจะขี่ม้าเค้าก็จะใช้หางม้ามาแตะที่ผมเค้า เพื่อเป็นการสื่อ เหมือนเราใช้จิตสื่อกัน มีคนอินเดียเค้าอ่านข้อมูลมาแล้วทราบว่าพี่เรียนศาสตร์นี้มาเค้าก็เลยติดต่อเข้ามาหาพี่แล้วก็บอกว่าเค้าศึกษาศาสตร์นี้มา 10 ปีศึกษาด้วยตัวเองและสนใจมาก แล้วเค้าบอกว่าเค้าไปเล่าให้ใครฟังเค้าคนอื่นก็จะคิดว่าผมบ้า

ที่ตัดสินใจเรียนศาสตร์ Animal communication เพราะเสียสุนัขที่รักมากไป?
ส่วนตัวพี่ที่ตัดสินใจศึกษาครั้งแรกก็เพราะพี่เสียหมาที่พี่รักไปแล้วก็ คนที่รู้เรื่องศาสตร์นี้บอกพี่ลองให้คนที่ศึกษาศาสตร์นี้ดูให้ว่าหมาพี่เป็นยังไงบ้างอยู่ที่ไหนอะไรยังไงตอนนั้นพี่ก็เลยคิดว่าน่าจะลองดู แล้วพอได้ศึกษาจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่า ศาสตร์นี้ช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือคนที่รักสัตว์เลี้ยง ได้เข้าใจสัตว์ของเค้า

หลักใน การสื่อ กับสัตว์นั้นเราต้องสื่อกับสัตว์ที่มีมีเจ้าของและไม่ใช่สื่อกับอะไรที่ชาเลนจ์เกินไป เช่น ลิงที่ลพบุรีที่ไม่มีเจ้าของอันนั้นเราสื่อไม่ได้ คือการที่เราดูสัตว์มีเจ้าของ เพราะถ้าเจ้าของเองก็จะทราบว่าที่เราดูสัตว์ของเค้าไป เค้าก็จะรู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง ส่วนใหญ่การสื่อกับสัตว์ถ้าตายไปแล้วก็จะใช้ประมาณ 5 คำถามแต่ถ้าสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่เราจะให้ถามแค่ 3 คำถาม ส่วนราคาจะประมาณ100 Singapore dollars 3 คำถามสำหรับ สัตว์ที่มีชีวิต 5 คำถามสำหรับสัตว์ที่เสียชีวิตแล้วค่ะส่วนใหญ่ คำถามก็จะเป็นประมาณว่า เป็นยังไงบ้าง ชอบอาหารที่ทานมั้ย

อย่างของคุณแคนดี้ รากแก่น ตอนที่ให้พี่ไปสื่อให้ตอนนั้นน้องของคุณแคนดี้ซึ่งเป็นแมวอยู่โรงพยาบาล ซึ่งทีแรกก็ต้องบอกว่าคุณแคนดี้ไม่ได้เชื่อ แต่พอเราสื่อแล้วบอกกับคุณแคนดี้ได้ คุณแคนดี้ก็เลยเชื่อมากขึ้นจนปัจจุบันคุณแคนดี้มาเรียนกับพี่ด้วยค่ะ
มีประสบการณ์การสื่อกับสัตว์มาหลายชนิด?
ตอนที่พี่ไปเรียนที่ต่างประเทศก็มีสื่อกับแร็กคูน เต่า ชินชีล่า มีนกแล้วก็หนูแฮมสเตอร์ การสื่อเราต้องมีสมาธิในการสื่อทำให้จิตสงบ ซึ่งบางคนจะได้รับแมสเสจไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นความรู้สึกเสียใจร้องไห้หิวโกรธแตกต่างกันออกไป บางครั้งบางครั้งก็จะส่งมาบอกว่าเค้าเป็นอะไรปวดท้องหรือเจ็บขาความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกส่งต่อมาที่เรา ซึ่งหากเราสื่อเสร็จแล้วเราต้องรีบตัดความรู้สึกนั้นทันทีด้วยนะคะ

Screenshot

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่คุณเอนจอย โทร 094-469-4963 หรือแอดไลน์ตามคิวอาร์โคด ได้เลยค่ะ