
จ.สมุทรสาคร เปิด 15 หมู่บ้านแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 3 เส้นทางหลัก ท่องเที่ยวเชิงเกษตร,ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชีวิต,ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยหลังโควิดระบาด ได้ผลตอบรับอย่างดี สร้างรายได้เข้าชุมชนหมู่บ้าน
นางรัชนี โพธิสัตยา พัฒนาการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรสาครได้มีการเปิดเส้นทางชุมชนหมู่บ้านท่องเที่ยว 3 เส้นทางหลักคือ เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเชื่อมโยงเส้นทางของหมู่บ้านที่มีการเพาะปลูกหรือทำไร่ ทำสวนเป็นหลัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัส หรือศึกษาเรียนรู้การทำการเกษตร เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชีวิต เป็นการเชื่อมโยงเส้นทางของหมู่บ้านที่มีประเพณีหรือวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และได้เรียนรู้การดำเนินชีวิตของคนสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันที่ยังคงหลงเหลือให้เราเห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นการเชื่อมโยงเส้นทางของแต่ละหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมาต่างๆ ที่ได้นำสถานที่นั้นๆมาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้คนได้เข้ามาเรียนรู้โดยจะพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวในประเทศแบบครบวงจร หลังสถานการณ์โรคระบาด โควิด19 ภายใต้แนวคิด“สมุทรสาคร เสน่ห์ไม่มีสิ้นสุด สมุทรสาคร Endless Charming” เที่ยวสนุกครบทุกมิติ สัมผัสวิถีชุมชน เสน่ห์นี้ไม่มีสิ้นสุด ทั้งนี้ได้มีผู้ว่าราชการจังหวัดนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ร่วมเปิดเส้นทาง
สามเส้นทางหลักด้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร,ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ มี 15 หมู่บ้านประกอบด้วย
เส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ มี 5 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านโคกขาม หมู่บ้านสันดาป หมู่บ้านชายทะเล (สะพานแดง) หมู่บ้านชายทะเลรางจันทน์ หมู่บ้านสหกรณ์1 ทั้ง 5หมู่บ้าน อยู่ริมชายฝั่งทะเลใกล้กรุงเทพฯ มีสถานที่เที่ยวมากมาย มีเสน่ห์ทางวิถีประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชาวเล มีร้านอาหารทะเลสดราคาไม่แพง เดินทางจากกรุงเทพใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

หมู่บ้านสันดาป จะมีศาลเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์ ตั้งบริเวณคลองโคกขาม ตำบลพันท้ายนรสิงห์ มีจุดเช็คอินตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ ชิม ช้อป แชร์แบบย้อนยุค กิจกรรมเวิร์คช้อปสินค้าชุมชน
หมู่บ้านโคกขาม วัดโคกขาม ต.บ้านเกราะ มีวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เก็บวัตถุโบราณที่เกี่ยวพันกับพันท้ายนรสิงห์หลายอย่าง อาทิ ชิ้นส่วนของเรือพระที่นั่งเอกชัย ศาลเพียงตาของเดิม หลวงพ่อสัมฤทธิ์ พระพุทธสิหิงค์
หมู่บ้านชายทะเลสะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา พระอาทิตย์ตกดิน มีสะพานไม้แดง ทอดยาวขนานชายทะเล 700 เมตร มีศาลาพระกลางน้ำ
หมู่บ้านสหกรณ์ 1 ชิลนาเกลือ ทดลองสปาเกลือ เป็นเส้นทางท่องเที่ยว เป็นอู่เกลือใหญ่ของประทศไทย ที่เที่ยวอินเทรนด์ นาเกลือผืนใหญ่ขาวสะอาดตา มีแหล่งเรียนรู้ทางเกษตร สบู่จากเกลือ การทำสปาเกลือ
เส้นทางท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่เปิดจะมี 6 หมู่บ้าน คือเส้นทางที่ 1 หมู่บ้านดอนไก่ดี/ หมู่บ้านท่ากระบือ (เดินทางโดยรถยนต์) และเส้นทางที่ 2 หมู่บ้านกระโจมทอง /หมู่บ้านคลองใหญ่/ หมู่บ้านโคกหลวง/หมู่บ้านท่านัด (เดินทางโดยเรือโดยสาร)
หมู่บ้านดอนไก่ดี หมู่บ้านน่าเที่ยวมีการทำเครื่องเบญจรงค์สืบทอดกันมาหลายปี 5 กลุ่ม บ้านอุไรเบญจรงค์ บ้านหนูเล็กเบญจรงค์ บ้านยืนยงเบญจรงค์ บ้านแดงเบญจรงค์ และ บ้านสังวาลเซรามิก ซึ่งชาวบ้านในชุมชนจะมีอาชีพทำเครื่องเบญจรงค์เป็นหลัก
หมู่บ้านท่ากระบือ วัดเก่าแก่ของตำบลบางยาง กราบขอพรหลวงพ่อรุ่ง ติสฺสโร หรือ พระไพโรจน์วุฒาจารย์ พระที่ใหญ่ที่สุดใน ภายในบริเวณวัด มี ตลาดน้ำในวัดท่ากระบือ จำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร และอาหารการกินของคนในชุมชน เส้นทางที่ 2 หมู่บ้านโคกหลวง/หมู่บ้านท่านัด/หมู่บ้านกระโจมทอง /หมู่บ้านคลองใหญ่ (เดินทางด้วยเรือ)

หมู่บ้านโคกหลวง/หมู่บ้านท่านัด ชุมชนเล็ก ๆ ริมคลอง ที่รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้ และคลองธรรมชาติสวยใสไปนั่งเล่นพักผ่อนริมคลอง “หลักห้า” นับเป็นชุมชนริมน้ำเก่าแก่ 150 ตลาดน้ำหลักห้ามีแตกต่างจากที่อื่นคือเสน่ห์ของวิถีชาวคลองที่ผูกพันกับสายน้ำอย่างแท้จริง ชิมอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวแห้ง”
มีวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก อ.บ้านแพ้ว มีหลวงพ่อโตสมัยอู่ทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวคลองดำเนินสะดวก
หมู่บ้านคลองใหญ่ กราบพระขอพรพระที่ วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม ชาวบ้านเรียกว่า “วัดมอญ” เพราะชาวรามัญสร้างขึ้นมา อยู่ต้นคลองตาปลั่งเป็นคลองลัดเชื่อมระหว่างพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร กับ อ.สามพราน จ.นครปฐม สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ก็ ตามสุมทุมพุ่มไม้ในวัด ยังเป็นที่อาศัยของ นกกาน้ำ นกกระยางขาว เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถนั่งเรือไปต่อกันด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ ชมการแปรรูปสมุนไพร เช่น ลูกประคบ และ น้ำตรีผลา ลูกอมตรีผลา จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านคลองใหญ่
เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิถีชีวิต เส้นทางที่เปิดใหม่ มี 4 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านวังนกไข่ หมู่บ้านคลองแค หมู่บ้านโรงปูน หมู่บ้านหลักสี่
หมู่บ้านหลักสี่ มีตลาดน้ำหนองพะอง อ.กระทุ่มแบน ของกินหลากหลายผลิตจากวัตถุดิบท้องถิ่นในหมู่บ้าน รวมทั้งผักสด ผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกเอง น่าเดินเที่ยว และมีเส้นทางจักรยาน 2 ฝั่งคลอง ชมวิวชาวสวน
หมู่บ้านโรงปูน เป็นชุมชนอพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาสมัยกรุงแตก ประชาชนทำมาหากินด้านการปลูกพืชผักผลไม้และประมงเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนทำมาค้าขายกับชุมชนอื่น ๆ ชาวบ้านในชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาทิ สวนมะพร้าว สวนแก้วมังกร สวนมัลเบอร์รี่ สวนไม้ดอกไม้ประดับ ไม้แขวน กล้วยไม้หลากหลายชนิด และร้านอาหารพื้นถิ่นที่ประกอบอาหารด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มาจากท้องถิ่นเป็นหลัก
บ้านคลองแค สถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ ริมถนนเลียบคลองชลประทานดี 7 หรือ คลองตาขำ จังหวัดสมุทรสาสาคร เป็นโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี สามารถมาโดดน้ำ พายเรือ ได้ที่บ้านคลองแค ที่นี่มีสายน้ำใสไหลผ่าน ซึ่งชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์แหล่งน้ำนี้ไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยน้ำเสีย ไม่ทิ้งขยะลงน้ำ ไม่จับปลา ภายในชุมชนมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ที่สร้างความสนุกและตื่นเต้น เริ่มจากสวนน้ำธรรมชาติ ที่ประกอบด้วยเครื่องเล่นหลายชนิด ทั้งโรยตัวโหนสลิงข้ามคลอง ถีบเรือเป็ด โดดหอ ล่องแพเปียก บ้านคลองแค ยังมีสวนเกษตรเมล่อน สามารถเข้าชมสวนเมล่อน บ้านสวนพิศิษฐ สามารถชิมเมล่อนสดได้เดือนละครั้ง

เส้นทางเที่ยวเกษตรที่สำคัญ อีกเส้นทางคือ บ้านวังนกไข่ หมู่ 8 ปัจจุบันบ้านวังนกไข่ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมวิถีชีวิตชุมชน มีศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร ล่องเรือชมคลอง ล่องเรือเก็บฝรั่ง มีศูนย์อนุรักษ์ควายไทย การทำขนมไทยพื้นบ้าน การแปรรูปสินค้าเกษตร ชาวบ้านได้รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านวังนกไข่
More Stories
อวี้หยวนฯ ร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-จีน จัดมหกรรมการแสดงศิลปะโคมไฟ Yuyuan Lantern Festival 2025 ครั้งแรกในไทย!
โครงการ Grand Moment Exclusive Escape ททท. กระตุ้นเที่ยวไทยต่อเนื่อง กับ Grand Moment Exclusive Escape มอบดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วไทย
สุราษฎร์ธานี พร้อมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเรือใบนานาชาติ สมุย รีกัตต้า 2568 ต้อนรับนักแล่นใบกว่า 200 คน จาก 10 ประเทศ คาดเงินสะพัดการท่องเที่ยวกว่า 50 ล้านบาทระหว่างวันที่ 24 – 31 พฤษภาคม 2568