November 24, 2024

www.thainewsbiz.com

ครบธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว แลไลฟ์สไตล์

“TIPMSE” เปิดเวทีหนุนผู้ประกอบการเรียกคืนบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนใช้ใหม่ตามหลักการ EPR เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

“TIPMSE”   เปิดเวทีใหญ่  “PROVE: The Journey to EPR Thailand” ระดมข้อเสนอ ดึงสมาชิกเครือข่าย รัฐ และเอกชน กว่า 100 องค์กร สร้างระบบนำบรรจุภัณฑ์หลังบริโภคกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ภาคสมัครใจ  เปิดทางผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ขนาดใหญ่ กลาง  SMEs  เตรียมพร้อมเข้าร่วม เร่งขยายเครือข่าย EPR (Extended Producer Responsibility) (พ.ร.บ.การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน)  ก่อนมีกฎหมายบังคับใช้ ในปี 2570  มุ่งเพิ่มขีดแข่งขันผู้ผลิตไทย รับกติกาโลก 

นายธงชัย ศิริธร รองประธานสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อมงาน (TIPMSE ) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท. ) เปิดเผยว่า  ได้ร่วมกับสมาชิกเครือข่ายภาครัฐ และเอกชน  ร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “PROVE: The Journey to EPR Thailand” เพื่อสื่อสารและสร้างโอกาสในการเข้าร่วมขับเคลื่อน EPR  โดยมีช่องทางและวิธีการเข้าร่วมได้หลายรูปแบบตามสนใจ  ปัจจุบัน ภาครัฐอยู่ระหว่างการพัฒนากฎหมาย EPR จึงเป็นเวทีที่สำคัญที่เปิดให้สมาชิกและเครือข่าย ทดลองดำเนินการตามหลัก EPR แบบภาคสมัครใจ ก่อนเข้าสู่ภาคบังคับ คาดว่าจะมีผลในปี 2570

การดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ได้มีความร่วมมือขององค์กรหลายภาคส่วนได้ร่วมกันพัฒนาโมเดล   โดย TIPMSE ร่วมกับภาคเอกชนได้ทำโครงการนำร่องที่นำหลัก EPR ให้ชุมชนมีส่วนร่วม ในโครงการ PackBack เก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อวันที่ยั่งยืนขึ้นในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเริ่มจาก 3 เทศบาลและขยายผลอีก 11 เทศบาลในปี 2567 เพื่อพัฒนาโมเดลที่สอดรับกับบริบทและกิจกรรมของแต่ละพื้นที่  นับเป็นความก้าวหน้าการพัฒนารูปแบบจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เกิดเป็นแนวทางและขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ไปพัฒนารูปแบบของพื้นที่ตนเอง

อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการนำหลัก EPR ไปพัฒนาธุรกิจ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการมาร่วมเรียนรู้กระบวนการทำงานตามหลัก EPR เพื่อเตรียมความพร้อม ในการพัฒนาองค์กร เข้าสู่หลัก EPR  ผ่านเวทีสัมมนากลุ่มย่อย 4 สถานีเรียนรู้เส้นทางการเข้าร่วม EPR   ประกอบด้วย 1.สถานี  Recap EPR Policy : จับประเด็นกฎหมาย EPR  2.สถานี  Reset Infrastructure: ปรับโครงสร้างขับเคลื่อน EPR 3. Reinvent with Recycle: เปลี่ยนดีไซน์สู่ความยั่งยืน และ 4. Reignite EPR Voluntary Action : จับมือรวมพลังผลักดัน EPR ภาคสมัครใจ

สาระสำคัญ ของห้องสัมมนาในสถานี  Recap EPR Policy: จับประเด็นกฎหมาย EPR  ผู้ร่วมสัมมนา จะได้รับทราบความก้าวหน้าร่างกฎหมาย ที่จะประกาศเป็น พ.ร.บ. การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน พ.ศ… ที่กำหนดให้นำหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต เข้ามาร่วมรับผิดชอบบรรจุภัณฑ์ ภายหลังจากการอุปโภคบริโภคของประชาชน

สถานี Reset Infrastructure: ปรับโครงสร้างขับเคลื่อน EPR   อัพเดทการปรับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มจาก จุดรับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว(drop off point) , ระบบขนส่งและจัดเก็บ, ระบบคัดแยกปลายทาง (MRF : Material RecoveryFacility ที่อาจต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้ดำเนินโครงการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น โครงการ Smart Recycling Hub, โครงการมือวิเศษคุณวน, โครงการreBOX, โครงการ ข.ขวดหมุนวียนเป็นขวดใหม่, โครงการBecare เก็บกล่องสร้างบ้าน เป็นต้น

สถานี Reinvent with Recycle: เปลี่ยนดีไซน์สู่ความยั่งยืน    เน้นการนำเสนอการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการรีไซเคิลได้ง่าย D4R หรือ Design for Recycle เพื่อเปลี่ยนให้บรรจุภัณฑ์สามารถเก็บกลับมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้มากที่สุด  ซึ่งมีนักวิชาการ ภาครัฐ รวมถึงต่างประเทศได้จัดทำแนวทาง D4R ไว้หลากหลายรูปแบบ ทั้งคู่มือของ WPO (World Packaging Organization) หรือข้อตกลงร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ THAI RKSHOP AGREEMENTข้อตกลงร่วม 4004-2566 ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์เรื่อง EPR ยังส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทยอีกด้วย

สถานี Reignite EPR Voluntary Action : จับมือรวมพลังผลักดัน EPR ภาคสมัครใจ  โดยสถานีนี้ จะมีโอกาสในการร่วมทดลองเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วตามแนวทาง EPR ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ PROVE และเตรียมความพร้อมสู่ภาคบังคับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว  ต้องเป็นความรับผิดชอบทุกภาคส่วนตามแนวทาง EPR  ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งโรงงานรีไซเคิลเพื่อให้เกิดการเก็บกลับครบวงจร (Closed Loop packaging) โดยจะดำเนินงานในช่วงเตรียมความพร้อมสู่ การดำเนินงานภาคบังคับต่อไป

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวที่ร่วมกัน ในการขับเคลื่อน  Voluntary EPR โดยมีองค์กรเข้าร่วมแสดงเจตจำนงเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 100 องค์กร และยังมีการประกาศความร่วมมือของ 4 องค์กรภาคีได้แก่ PPP Plastics, PRO Thailand Network ,Aluminium Closed Loop Packaging System (Al Loop) และ TIPMSE PackBack และรวมถึง Collector รายใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนอย่าง TBR หรือ SCGP ซึ่งต่างมีโครงการที่จะช่วยผลักดัน สนับสนุน กลไก EPR ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม