กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แถลงผลต่อยอดเยือนคุนหมิง-จีน ตามนโยบาย “One Belt One Road” เน้นพัฒนาโลจิสติกส์ ผลักดันส่งออกเพิ่ม ชูผลสำเร็จจัดงาน TILOG-LOGISTIX ไทยครองอันดับ 34 “ระบบโลจิสติกส์ประสิทธิภาพสูงของโลก”พร้อมหนุนส่งออกดิจิทัลคอนเทนต์ เตรียมจัดงานใหญ่ Bangkok Gems คาดมีผู้เข้างานกว่า 3 หมื่นรายทั่วโลกสร้างมูลค่าซื้อขายกว่า 3 พันล้านบาท
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยผลการเดินทางเยือนคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคม 2566 ว่าได้ร่วมลงนาม MOU ไทย-ยูนนานกับอธิบดีกรมพาณิชย์ มณฑลยูนนาน ภายในงาน GMS.Economic.Corridor.Governor.Forum ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือด้านการค้าทั้งสินค้า การบริการ และการลงทุน โดยเฉพาะการเกษตร โลจิสติกส์ การขนส่ง และ e-commerce ทั้งยังร่วมเป็นประธานพิธีเปิดงาน Top Thai Brands Kunming 2023 ภายในงานแสดงสินค้า China-South Asia Expo ครั้งที่ 7 โดยมีผู้ประกอบการไทย 38 ราย และผู้นำเข้าสินค้าไทย 20 ราย เข้าร่วมสร้างมูลค่าการค้ากว่า 72 ล้านบาท
นายภูสิต กล่าวว่า ระหว่างการเยือนดังกล่าวได้มีโอกาสหารือร่วมกับผู้นำเข้าสินค้าผลไม้สด ผู้นำเข้าสินค้าอาหาร และผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์ อาทิ Kunming Yangguo Trading นำเข้าทุเรียน มังคุด และส้มโอจากไทย มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี และสนใจจะสร้างศูนย์กระจายสินค้าในบริเวณชายแดนมณฑลยูนนานเพื่อรองรับสินค้าจากไทยและกระจายต่อไปยังมณฑลอื่นๆ ขณะที่ Yunnan-Kunthai Guangda Trading Co. Ltd. นำเข้าของขบเคี้ยว เครื่องปรุง เครื่องดื่ม และอาหารสำเร็จรูปจากไทยหลายแบรนด์ รวมถึงได้เห็นศักยภาพสินค้าไทยประเภทอื่นๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในจีน เช่น ยาดม ยาหม่อง สินค้าแฟชั่น เป็นต้น
ซึ่งแม้การขนส่งโดยรถไฟ จีน-ลาว ยังมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่จีนยังคงมีความต้องการนำเข้าสินค้าหลากหลายประเภทจากไทย จึงคาดว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการสนับสนุนการขนส่งเส้นทางนี้ โดยในครั้งนี้ยังมีการลงนาม MOU ระหว่างนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี และหยุนหนานเถิงจิ้นโลจิสติกส์ (operator รถไฟจีน-ลาว) ซึ่งจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการขนส่งสินค้าไทยจากนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ลาว และ MOU ระหว่างบริษัท Far – E Logistics Co.,Ltd.และYunnan.Mengzi.Chang.Meng.Industry.Co.,Ltd. เน้นความร่วมมือด้าน Cross.Border E-commerce ตั้งเป้าจำหน่ายสินค้าไทย 1,000 รายการ ใน 1 ปี เริ่มต้นที่สินค้าข้าวถุงต่อไป
ทั้งนี้ ในปี 2565 การค้ารวมไทย – ยูนนาน มีมูลค่า 2,349 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 โดยมณฑลยูนนานตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด เป็นประตูเชื่อมโยงภาคตะวันตกของจีนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ ภายใต้นโยบาย “One Belt One Road” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และการขนส่งไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ หรือทางราง ทำให้เกิดความสะดวกด้านการค้าระหว่างไทย–จีน มากขึ้น
นายภูสิต กล่าวต่อเนื่องถึงผลการจัดงาน TILOG-LOGISTIX ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยในระดับนานาชาติ และผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจโลจิสติกส์ของภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “Smart and Green Logistics for Sustainable Tomorrow”สอดรับกับ
เทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีโลจิสติกส์ยุคใหม่ โดยในปี 2566 World Bank จัดให้ไทยอยู่อันดับ 34 “ระบบโลจิสติกส์ประสิทธิภาพสูงของโลก” จาก 139 ประเทศ และเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนซึ่งสะท้อนศักยภาพการพัฒนาและความพร้อมทางโลจิสติกส์ที่จะก้าวสู่การเป็นประตูการค้าสำคัญของอาเซียน และโลก ทั้งนี้ ภายในงานสร้างมูลค่าซื้อขายกว่า 4,000 ล้านบาท
สำหรับด้านการผลักดันการส่งออกอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตชมซีรีส์และภาพยนตร์ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆมากขึ้น ทั้งยังเป็นธุรกิจบริการมูลค่าเพิ่มสูงที่นำความคิดสร้างสรรค์มาผนวกกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ และเป้าสหประชาชาติที่มุ่งก้าวข้าม Middle Income Trap โดยกรมมุ่งผลักดันใน 2 มิติ คือ มิติบริการด้วยการเป็นฐานรับจ้างผลิตคุณภาพสูง และมิติสินค้าด้วยการเป็นผู้นำด้าน IP ของภูมิภาค ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้ มีงานตามแผน 10 โครงการ และงานนอกแผนอีก 7 โครงการ ที่จะเน้นเจาะตลาดศักยภาพเชิงรุก สำหรับแอนิเมชันและคาแรคเตอร์ เกมส์ ภาพยนตร์ และซีรีส์โดยจะมีคณะผู้แทนการค้าแอนิเมชันและคาแรคเตอร์ ไปขยายโอกาสและเครือข่ายธุรกิจ และสร้างความร่วมมือ
ด้าน.Co-production.และ.Outsource ในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน รวมถึงผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ดิจิทัลคอนเทนต์ไทย เพื่อให้ทูตพาณิชย์นำไปใช้ในการขยายฐานผู้ซื้อศักยภาพใหม่ๆ และคาดว่าครึ่งปีหลังนี้จะมูลค่าการซื้อขายกว่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 6,788 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมขอประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ 68th Bangkok Gems & Jewelry Fair ระหว่าง 6 – 10 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีผู้ผลิตและผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมากถึง 1,100 บริษัท กว่า 2,400 คูหา และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 ราย จากทั่วโลก โดยกรมได้เชิญผู้ซื้อรายสำคัญและสมาคมการค้าในตลาดศักยภาพ ทั้งจากภูมิภาคตะวันออกกลาง และจีนเข้าร่วมงานและกิจกรรมต่างๆ อาทิ Networking Reception, Business matching ทั้งออนไซต์และออนไลน์ และการสัมมนา รวมถึงการประชุมนานาชาติ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) ครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 4,348.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 โดยตลาดส่งออกสำคัญคือ ฮ่องกง สหรัฐฯ เยอรมนี อินเดีย และ สหราชอาณาจักร เป็นต้น
More Stories
ยาดมตราโป๊ยเซียน เปลี่ยนพลาสติกเป็นถนน UPCYCLING ลดปัญหาพลาสติกสะสมในประเทศ เพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของคนไทย
หลังคาไวนิลท้องเรียบ กันความร้อนได้ไหม
เอสซีจี คว้า 5 รางวัลงาน TMA Excellence Awards 2024 โดดเด่นด้านผู้นำ พัฒนาคนธุรกิจเติบโตยั่งยืนด้วยนวัตกรรมกรีน ปรับองค์กรคล่องตัวยิ่งขึ้นรับทุกความท้าทายโลก