17 มีนาคม 2566,กรุงเทพฯ – บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายหนังสือชั้นนำของเมืองไทยในนาม “ร้านนายอินทร์” ร่วมกับ บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด หรือ “เด็กดี” จับมือ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการเรียนรู้แบบไม่มีวันสิ้นสุดผ่านคอมมูนิตี้เพื่อนักอ่านและนักเขียน เชื่อมโยงการเรียนรู้แบบไร้รอยต่อจากหน้าจอสู่ หน้าร้าน มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน พัฒนานิวเจเนอเรชัน ให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพด้วยตนเอง ภายใต้แนวคิด “อ่านดี เรียนดี ชีวิตดี” ณ ห้อง Auditorium ศูนย์การประชุม ซี อาเซียน (C Asean) พระราม 4
นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อมรินทร์กรุ๊ป เราเป็นอันดับ 1 ด้านการสื่อสารแบบครบวงจร ผ่านโมเดลธุรกิจ Omni Media – Omni Channel เรามีนิตยสาร หนังสือเล่มและโรงพิมพ์โดยยึดหลัก “คุณภาพ” เป็นหัวใจสำคัญ มุ่งสร้างสรรค์และผลิตสื่อดิจิทัลทุกชนิด ด้วยประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยม มีช่องทางออนไลน์กว่า 200 ช่องทาง มีทั้งคอนเทนต์ และข่าวสารที่หลากหลาย เราดำเนินการจัดงานแฟร์ และกิจกรรมคุณภาพ พร้อมทั้งมีสถานีโทรทัศน์ Amarin TV HD ช่อง 34 และครบถ้วนทั้งช่องทางจำหน่ายสินค้าหน้าร้านนายอินทร์ 109 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ ซึ่งความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ อมรินทร์กรุ๊ป เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในการส่งมอบประสบการณ์ และคุณภาพชีวิต เพื่อความสุขและความรุ่งโรจน์ของสังคม ผ่านสาระความรู้ ความรื่นรมย์ ที่สมบูรณ์รอบด้าน เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์”
“วัตถุประสงค์ที่อมรินทร์เข้าร่วมลงทุนในเด็กดี เพราะเราเห็นศักยภาพของการเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจการศึกษา ทั้งออนไลน์และงานกิจกรรมออนกราวด์ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของวัยรุ่น สอดคล้องกับแนวคิด “Life Long Learning” ของอมรินทร์ ที่จะพัฒนาและต่อยอดตลาดกลุ่มนี้ รวมทั้งกลุ่มนิยายออนไลน์ ซึ่งเด็กดีถือเป็นแพลตฟอร์มแรกๆ ของประเทศ ที่ นักเขียนให้ความไว้วางใจ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่อมรินทร์เห็นถึงโอกาสในการเสริมความแข็งแกร่งร่วมกับ แบรนด์นายอินทร์ เพื่อขยายความหลากหลายทั้งในเชิงรูปแบบ (Platform), ทั้งประเภทของนิยาย, ทั้งจำนวนนักเขียน รวมไปถึงความหลากหลายของนักอ่านทุกเพศทุกวัย” นางระริน กล่าว
ม.ล.ลือศักดิ์ จักรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่างร้านนายอินทร์และเว็บไซต์เด็กดีในครั้งนี้ เราเล็งเห็นถึงโอกาสในการร่วมมือกัน ในระยะยาว เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งทั้งด้านการศึกษา ความบันเทิง และนิยาย รวมไปถึงการต่อยอด สู่คอนเทนต์ออนไลน์ในอนาคต อีกทั้งยังมองเห็นโอกาสในการแปรเปลี่ยนจาก Digital to Print และ Print to Digital จึงก่อให้เกิดความร่วมมือภายใต้แนวคิด “อ่านดี เรียนดี ชีวิตดี” ขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มเด็กไทย และพร้อมขยายผลต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ตลอดจนวัยทำงาน ช่วยให้พัฒนาตนเองได้ไม่หยุดยั้ง และสร้างชุมชนสำหรับนักเขียนนิยายที่แข็งแกร่ง พร้อมเพิ่มโอกาสให้แก่นักอ่าน และนักเขียนทุกท่านอย่างต่อเนื่อง”
ทางด้าน นายวโรรส โรจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด กล่าวว่า “ร้านนายอินทร์และเด็กดี มีความต้องการที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น เพื่อส่งมอบ ความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงสินค้า บริการ รวมไปถึงคอนเทนต์ต่างๆ ที่เรามี เริ่มต้นด้วย การผลักดันคอนเทนต์นิยาย โดยการเปิดโอกาสสำหรับนักเขียนอิสระบนเว็บไซต์เด็กดีในการผลิตนิยาย แบบรูปเล่ม และ E-Book พร้อมขยายสู่การนำนิยายไปผลิตเป็นซีรีส์ เว็บตูน รวมไปถึงแปลนิยาย เป็นภาษาต่างประเทศ และจัดจำหน่ายในทุกช่องทางของร้านนายอินทร์ ในด้านการศึกษา และการพัฒนาตนเอง เราร่วมมือกันต่อยอดจัดงานมหกรรมส่งเสริมการศึกษาต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้ามากขึ้น อาทิ งาน Dek-D’s School, กิจกรรม Coach DD ที่เราจะมีการเพิ่มรูปแบบในการพูดคุย ให้คำปรึกษา แบบตัวต่อตัวโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีจุดให้บริการเป็นหน้าร้านนายอินทร์”
ซึ่งเป้าหมายในการร่วมมือกันในครั้งนี้ ร้านนายอินทร์และเด็กดี หวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการอ่าน สร้างภูมิคุ้มกันทางการศึกษาให้แก่คนในสังคม ก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแคมเปญ “อ่านดี เรียนดี ชีวิตดี” ที่ www.naiin.com และ www.dek-d.com
More Stories
BIDC 2024 สร้างรายได้กว่า 1,195 ล้านบาท รวมพลคนในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ตบเท้าร่วมงานกว่า 30,000 คน
กระทรวงดีอี – ดีป้า ชูโครงการ Smart School Bus ต้นแบบกลไกยกระดับ ผลิตภัณฑ์-บริการดิจิทัลสัญชาติไทยได้มาตรฐานสากล สู่การประยุกต์ใช้ดิจิทัลยั่งยืน
หัวเว่ย มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคลาวด์ระดับภูมิภาค หลังจากกระทรวงดีอี ชี้แจงนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก “Cloud First Policy”