เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ที่อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดกิจกรรม “ปลุกพลัง สร้างโอกาสแห่งอนาคต กับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปีการศึกษา 2563” โดยมีนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่นที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมการถ่ายทอดสดกิจกรรมไปอีก 23 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมรูปแบบระบบออนไลน์เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
ศาสตราจารย์ ดร.นักสิทธ์ คูวัฒนาชัย ประธานคณะอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการส่งเสริมนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสเพื่อศึกษาต่อสายอาชีพชั้นสูง กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะด้านในระดับอาชีวศึกษาจำนวนมาก ทำให้สถาบันการศึกษาต้องเร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นพื้นที่หลัก โดยโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง นับเป็นโครงการที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรสายอาชีพได้ ในปีนี้ กสศ. ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สามารถสร้างโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนต่อสายอาชีวศึกษารวมทั้งสิ้นกว่า 4,700 คน จาก 47 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นรุ่นที่ 1 จำนวน 2,000 คน และรุ่นที่ 2 จำนวน 2,700 คน มีสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ 66 แห่ง
ศาสตราจารย์ ดร.นักสิทธ์ กล่าวว่า ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 2 กสศ. ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมถึงเด็กที่มีความขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความต้องการพิเศษ (พิการ) โดยทดลองเปิดทุนใหม่เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสม ระบบในการดูแลที่เหมาะสมร่วมกับวิทยาลัย ส่วนการดำเนินการรุ่นที่ 1 ที่ผ่านมาพบว่า นักศึกษาทุนมีศักยภาพแต่มีความเปราะบางในชีวิตจากพื้นฐานครอบครัว จึงเป็นความท้าทายที่กสศ. ต้องทำงานกับวิทยาลัยต่างๆ ในการดูแลเด็กให้มีภูมิคุ้มกันเอาตัวรอดในสังคมได้ อยากฝากถึงนักศึกษาที่ได้รับทุนทุกคน เวลาตั้งเป้าหมายทำอะไรต้องมียุทธศาสตร์ว่าทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ อย่าลืมที่จะให้ความสำคัญต่อการเรียน ต้องมีวินัย เข้าใจเนื้อหา และรู้จักที่จะปรับตัว ส่วนสถาบันการศึกษาขอให้ท่านผู้บริหาร ครู อาจารย์ดูแลนักศึกษาผู้รับทุนอย่างลูกหลาน ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนนักศึกษาผู้รับทุนให้มากที่สุด
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 1 ที่ผ่านมาเราพบว่าเด็กที่ได้รับทุนการศึกษามีผลการเรียนดีมีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 หรือกว่าร้อยละ 67 ถือเป็นผลที่น่าพอใจ ดังนั้นผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรครูจึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยเหลือดูแลเด็กๆกลุ่มนี้ สำหรับการดำเนินการรุ่นที่ 2 กสศ. เชื่อว่าเด็กทุกคนมีคุณภาพ และจะมีชีวิตที่ดีหลุดพ้นจากความยากจนได้หากได้รับการศึกษา ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงมีภารกิจที่สำคัญ 2 ด้าน คือ 1.ให้ทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีขีดความสามารถในการเรียนรู้ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม และ2.จัดสรรงบประมาณให้กับสถาบันการศึกษาสายอาชีพที่เข้าร่วมโครงการไปพัฒนาการเรียนการสอนและครูให้มีคุณภาพที่สูงขึ้นในระดับอินเตอร์ เพื่อเป็นแนวหน้าในระดับอาเซียน
การปฐมนิเทศนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 2 กสศ. จึงไม่ใช่แค่ให้เด็กนั่งเรียนรู้ทฤษฏีและจดบันทึกเหมือนเช่นอดีต แต่จะเป็นการทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะความรู้ที่รองรับกับทักษะศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีแต่ครอบคลุมถึงหลักการเรียน การปรับตัวและการทำงานเป็นทีม รวมถึงการเสริมทักษะการบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายอย่างถูกต้อง เราเชื่อว่าเด็กที่ได้รับทุนทุกคนมีศักยภาพและความสามารถ แต่อาจขาดพลังที่จะต่อสู้จนสำเร็จการศึกษาตามเป้าหมายที่วางไว้เท่านั้น
ผศ.ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม อาจารย์ประจำภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เรียนที่มีความพิการ กล่าวว่า โครงการ“เปลี่ยนความพิเศษให้เป็นพลัง” เป็นโครงการย่อยออกมาจากโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เป็นโครงการส่งเสริมให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความต้องการพิเศษ (พิการ) ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เน้นสร้างโอกาสให้ผู้พิการ ปัจจุบันมีสถาบันอาชีวศึกษาเข้าร่วมและนำร่อง 5 วิทยาลัย อาทิ วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล จ.นครปฐม วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก กรุงเทพฯ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา ฯลฯ สำหรับการทำงานสถาบันการศึกษาและกสศ.จะร่วมกันออกแบบการเรียนการสอน พร้อมเข้าไปหนุนเสริมการทำงานของวิทยาลัยเพื่อวัดความรู้เด็กให้พร้อมสู่การมีงานทำ มีระบบดูแลช่วยเหลือติดตามหลังเรียนจบการศึกษา
ผศ.ดร.ชนิศา กล่าวว่า หลังจากเด็กกลุ่มความต้องการพิเศษได้รับโอกาสทางการศึกษาแล้วเราจะติดตามถอดบทเรียนการทำงานอย่างรอบด้าน และหลังเก็บรวบรวมข้อมูลเด็กพิเศษมากว่า 6 เดือน เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น เด็กที่ได้รับทุนต้องต่อสู้กับอุปสรรคเป็นสองเท่าเพื่อเอาชนะข้อจำกัดของตนเองนั้น กลับมีแววตาที่แสดงออกถึงความฝันที่อยากจะเป็นมากขึ้น มีความหวัง มีกำลังใจไม่ท้อแท้ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเด็กพิเศษต้องแก้ตั้งแต่เกิดซึ่งเด็กจะรู้จักตัวเองและฉายแววความโดดเด่นออกมา และมีโอกาสตอบแทนสังคมได้มากกว่าเด็กที่ได้รับการพัฒนาตอนโต
“อยากขอบคุณกสศ. ที่ให้โอกาสเด็กพิเศษกลุ่มนี้ และเราตั้งเป้าหมายการทำงานสูงสุดไว้คือได้เห็นสังคมที่อยู่ร่วมกันได้จริงถ้ามีสังคมเช่นนี้จะตอบโจทย์ความเหลื่อมล้ำได้ อยากให้สังคมเปิดใจยอมรับความแตกต่าง อย่ารีบตัดสินคนกลุ่มนี้จากภายนอก ขอให้มองศักยภาพจากการทำงาน อะไรที่เขาขาดไปสังคมควรจะช่วยเสริมและเติมให้” ผศ.ดร.ชนิศา กล่าว
นางสาวพัชรีญา ก้องสูงเนิน อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า วิทยาลัยได้รับทุนนวัตกรรมสายอาชีพรุ่น 2 จำนวน 21 ทุน แบ่งเป็น 5 สาขาวิชา อาทิ ช่างไฟฟ้ากำลัง สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ทุนนี้เป็นทุนที่ช่วยต่อยอดชีวิตทางการศึกษาให้เด็กได้อย่างมาก หากไม่มีทุนการศึกษาก็ไม่รู้ว่าเด็กจะได้เรียน หรือมีอนาคตไปในทางไหนเพราะไม่สามารถโฟกัสชีวิตโฟกัสความั่นคงได้ ทุนนี้ยังขยายไปสู่ครอบครัวเด็กให้เดินต่อไปได้ เนื่องจากทุนการศึกษาที่ได้รับ นอกจากใช้ในด้านการศึกษาแล้ว เด็กยังเก็บสำรองไว้เรียนได้โดยที่ไม่ต้องรบกวนผู้ปกครอง เพราะหากไม่ได้รับโอกาสตรงนี้ เด็กจะต้องออกไปดิ้นรนทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว ทุนนี้จะช่วยให้เด็กจบสูงขึ้น การทำงานก็จะดีขึ้น โอกาสของการตกงานก็มีน้อยลงเพราะได้รับการศึกษา
More Stories
“ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัลรีเทล” เดินหน้าชิงเวลาจากลูกค้าต่อเนื่องจากห้างฯ ยิงยาวไป Central App ผ่านออมนิแคมเปญ “ช้อปแบบที่ชอบ”
วันนี้คุณลองให้อิสรภาพไข่คุณหรือยัง? GQ Apparel พร้อมปฏิวัติวงการบ๊อกเซอร์ชายไทย ให้ไข่เย็นโล่ง..จนลืมว่าใส่
Thailand Islamic Finance Forum 2024 Halal the next wealth and sustainability “ การเงินฮาลาลเปลี่ยนผ่าน สู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ”