ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ร่วมมือกับ ไบโอ เจเนเทค อินเตอร์เนชั่นแนล และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกและแปรรูปบุก เกษตรอินทรีย์บ้านทุ่งแพม จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็น ภาครัฐ-เอกชน-ชุมชน 3 ฝ่าย ร่วมลงนามความร่วมมือพัฒนาและเตรียมความพร้อมของกลุ่มยาที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ และเพื่อใช้ในการรักษาทางการแพทย์ ทั้งในลักษณะที่เป็นยาสมุนไพรและยาแผนปัจจุบัน ภายใต้สัญญา 5 ปี
นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล ตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอ เจเนเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านไบโอเทคโนโลยี คัดสรรงานวิจัยชั้นนำเกี่ยวกับไบโอเทคมาพัฒนาต่อเป็นนวัตกรรมสู่ตลาด พร้อมทั้งลงทุนในโรงงานรับจ้างผลิตยาชีววัตถุผ่านบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกและแปรรูปบุก เกษตรอินทรีย์บ้านทุ่งแพม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการพัฒนาและเตรียมความพร้อมของกลุ่มยาที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ และเพื่อใช้ในการรักษาทางการแพทย์ ทั้งในลักษณะที่เป็นยาสมุนไพรและยาแผนปัจจุบัน รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเป็นส่วนประกอบ โดยมีระยะเวลาความร่วมมือเป็นเวลา 5 ปี
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว TCELS จะให้การสนับสนุนด้านการวางแผนเพื่อผลักดันการพัฒนาการผลิตเชิงพาณิชย์ของกลุ่มยาที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเพื่อใช้ในการรักษาทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเป็นส่วนประกอบ พร้อมให้การสนับสนุนในการประสานงานกับหน่วยงานราชการ ประสานงานกับเครือข่าย และส่งเสริมต่อยอดผลิตภัณฑ์บริการจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ตลอดจนจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือ เช่น การจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น
นายมารุต กล่าวอีกว่า ในส่วนของ “บริษัท ไบโอ เจเนเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” จะให้การสนับสนุนในการบริหารจัดการและประสานงานให้เกิดความร่วมมือระหว่างคู่สัญญาทั้งสามฝ่ายและหน่วยงานภายนอก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการทดลองทางคลินิค (Clinical Trials) ผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
“ไบโอ เจเนเทคฯ ยังจะดำเนินการกำหนดด้านนโยบายและแผนในการพัฒนาและเตรียมความพร้อมเพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ของกลุ่มยาที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงเป็นส่วนประกอบอีกด้วย”
ขณะที่ วิสาหกิจชุมชนบ้านทุ่งแพม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะให้การสนับสนุนด้านสายพันธุ์กัญชาและกัญชง การปลูก และการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นกัญชาและกัญชงเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการสกัดสารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) และสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) รวมทั้งดำเนินการวางแผนและเตรียมความพร้อมด้านการผลิตวัตถุดิบกัญชาและกัญชงเพื่อรองรับการนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ของกลุ่มยาและกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชง
นายมารุต กล่าวในตอนท้ายว่า ในกรณีที่มีการพัฒนาโครงการย่อยภายใต้บันทึกความร่วมมือฉบับนี้ คู่สัญญาทั้งสามฝ่ายตกลงทำสัญญาเป็นข้อตกลงโครงการย่อยโดยทำเป็นลายลักษณ์อักษร มีรายละเอียดอย่างน้อย ประกอบด้วยแผนการดำเนินงาน ขอบเขตการดำเนินงานของแต่ละฝ่าย ระยะเวลาการดำเนินงาน งบประมาณการดำเนินงาน และการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ฯลฯ เป็นรายกรณีไป
More Stories
รฟฟท.รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2567
UNIDO หนุนมุ่งลดคาร์บอนภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์ไทย
POP MART THAILAND ดัน SKULLPANDA อาร์ตทอยตัวท็อป จัดงาน “SKULLPANDA EXCLUSIVE EVENT” เนรมิตอีเว้นท์คริสต์มาสรูปแบบใหม่