นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 ระบุ หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ สสส.คือการลดอัตราการบริโภคยาสูบ โดยป้องกันผู้บริโภคยาสูบหน้าใหม่ควบคู่ไปกับการลดผู้บริโภคยาสูบรายเดิม โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการไม่สูบบุหรี่และพัฒนาศักยภาพกลไกการควบคุมยาสูบ เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ไม่เกิน 15% หรือไม่เกิน 9 ล้านคนในปี 2568

ปัจจุบันทั่วโลกตระหนักถึงพิษภัยจากบุหรี่ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง บริษัทผู้ผลิตบุหรี่จึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่คือบุหรี่ไฟฟ้าโดยอ้างว่ามีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่มวนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างกรณีตัวอย่างของสหรัฐและอังกฤษอนุญาตให้ซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าได้โดยถูกกฎหมายแต่ผ่านมาไม่ถึง 10 ปีพบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีติดบุหรี่ไฟฟ้า แสดงให้เห็นว่าแม้ประเทศเหล่านี้จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแต่ก็ไม่สามารถควบคุมเยาวชนไม่ให้เสพติดบุหรี่ได้ ในส่วนของประเทศไทย การอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายหรือจะไม่อนุญาต อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่ปัจจุบันพบว่าเด็กนักเรียนชั้นประถมต้นและมัธยมปลายติดบุหรี่เฉลี่ยกว่า 10% และส่วนใหญ่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งการที่เยาวชนเสพติดบุหรี่ตั้งแต่อายุน้อยๆจะมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาไปสู่สารเสพติดที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งนำไปสู่การเสพติดพนัน
การควบคุมการบริโภคบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในระดับชุมชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนและสร้างสังคมปลอดบุหรี่ โดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานสาธารณสุขและเครือข่ายภาคประชาสังคมในระดับพื้นที่และระดับประเทศเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่ดี รวมถึงการพัฒนากลไกการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ
การเรียนรู้ผ่านกระบวนการ Benchmarking เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจากหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ อปท.อื่นๆ มองเห็นช่องว่างในการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายแพทย์ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ระบุ แนวคิดและบทบาทของ Benchmarking ในการพัฒนาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) จำเป็นต้องมีระบบสนับสนุน และระบบหลัก
สำหรับระบบสนับสนุน คือ 1. การสร้างนโยบายชุมชนปลอดบุหรี่ โดยการกำหนดนโยบายและธรรมนูญสุขภาพควบคุมยาสูบ การทำแผนที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันช่วยเหลือ และคุ้มครอง การกำหนดพื้นที่ปลอดบุหรี่ที่ครอบคลุม การจัดตั้งกลไกคณะกรรมการ และอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง 2.การสร้างความเข้มแข็งในชุมชน โดยมีความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่ระบุบทบาทของแต่ละฝ่าย การจัดสรรงบประมาณที่มีแหล่งงบประมาณจากในและนอกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการพัฒนาบุคลากรให้ครอบคลุมการดำเนินงานด้านต่างๆ และ 3.ระบบสารสนเทศ โดยมีฐานข้อมูลการบริหารจัดการ ฐานข้อมูลการดำเนินงาน และฐานข้อมูลการสูบบุหรี่และผลกระทบ
ส่วนระบบหลัก คือ 1. การสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ โดยการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ และการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ทั้งบ้าน ชุมชน และโรงเรียน 2. การสร้างทักษะส่วนบุคคล โดยการประชาสัมพันธ์ และการมีบุคคลต้นแบบ รวมทั้งจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพของกลุ่มเป้าหมาย และ 3. การสร้างระบบบริการสุขภาพที่เอื้อต่อการไม่สูบบุหรี่ โดยมีการบริการช่วยเลิกบุหรี่ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการบริการในชุมชนเพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์ชัย กฤตยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยาสูบ ระบุ อปท.เปรียบเสมือน รัฐบาลท้องถิ่นมีหน้าที่รับผิดชอบทุกเรื่องของท้องถิ่น และสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนทุกคนคือเรื่องสุขภาพ อปม.จึงมีหน้าที่สำคัญคือการดูแลคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน

ที่ผ่านมา สหประชาชาติ หรือ UN มีมติให้ทุกประเทศควบคุมอัตราการเสียชีวิตของประชนจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD ให้ลดลง 25% ภายในปี 2568 โดยโรคจาก NCD เช่น ปอดอักเสบ มะเร็ง ซึ่งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของ NCD และการลดอัตราการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่จะช่วยลดอัตราการตายจาก NCD ของคนทั้งประเทศได้ ปัจจุบัน สาเหตุการตายของประชากรไทย 76% คือ NCD เช่น เบาหวาน ความดัน เส้นเลือดหัวใจ เส้นสมอง รวมมากกว่า 7 หมื่นคน/ปี NCD ที่พบมากสุดคือ โรคเส้นเลือด หัวใจ และสมอง 29% รองลงมา 17% คือมะเร็ง

อปท. จึงต้องทำหน้าที่ในการดูแลคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการลดอัตราการเกิด NCD ในพื้นที่ให้ได้ผล ซึ่งการควบคุม NCD ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะสังคมไทยกำลังเข้าสู่ความเป็นสังคมผู้สูงอายุ มีเด็กเกิดใหม่และวัยทำงานน้อยลง ปัญหาที่จะตามมาคือใครจะดูแลผู้สูงอายุที่มี NCD อีกทั้งกระบวนการทำให้ อปท. เมือง ชุมชน ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน สามารถทำได้โดยผู้มีอำนาจในชุมชน ทั้งตัวแทนภาครัฐและผู้นำชุมชน ต้องหารือเรื่องการป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคซึ่งมีบุหรี่เป็นสาเหตุหลัก และกำหนดนโยบายและการมีส่วนร่วมทำโครงการเมือง/ชุมชนปลอดบุหรี่
More Stories
ซูเปอร์สปอร์ตคว้ารางวัลความยั่งยืนระดับเอเชีย ESGBusiness Awards 2025 นำร่องด้วยโครงการ “Supersports Moves the Change in Society, Re-Balance the World”
ไทยเจียระไน กรุ๊ปฯ จัดงาน “Thailand Headlines Person of the Year Awards 2025” ยิ่งใหญ่ ฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ไทย–จีน ตอกย้ำพลัง Soft Power ไทยสู่ระดับโลก
จังหวัดน่าน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน จัดงาน “NAN AGRO INDUSTRY INNOVATION FAIR 2025” ยกของดีจังหวัดน่านสู่ศรีราชา