น้ำใจคนไทยไม่เหือดแห้ง มูลนิธิจตุรธรรมประทีป ขอเป็นสะพานบุญนำสิ่งของที่รับบริจาค ลงพื้นที่ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมอยุธยา

สถานการณ์ความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วมยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยเฉพาะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิจตุรธรรมประทีป อำเภอพานทอง จังหวังชลบุรี จึงไม่รีรอ เปิดรับบริจาคเพียง 2 สัปดห์จากประชาชนผู้ใจบุญในเขตอำเภอพานทอง พร้อมนำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมเมื่อเร็วๆ นี้ โดยลงพื้นที่อำเภอบางบาลและพื่นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ และในครั้งนี้ได้เจ้าหน้าที่รัฐ มาร่วมประสานงานลงพื้นที่ และรับสิ่งของบริจาคเพื่อมอบให้ประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป และเตรียมรับบริจาคต่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนในทางภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดหนองคาย และ จังหวัดบึงกาฬ ต่อไป

“กำนันวาสนา สาลีผล” ผู้นำหมู่บ้านเป็นตัวแทนรับมอบ กล่าวว่า ปีนี้สถานการณ์น้ำท่วมมาไวและลงไว เนื่องจากว่าเขื่อนลดในการปล่อยน้ำ ในส่วนของวัดตะกู มี 500 กว่าหลังคาเรือน ได้รับผลกระทบไปแล้ว 300 กว่าหลังคาเรือน ซึ่งทางชลประทานได้ประกาศเตือนไว้ว่ารอบนี้ แม่น้ำลดลงแล้วแต่อย่าชะล่าใจเพราะว่าจะมีมาอีกประมาณ 1 ถึง 2 ระรอก ค่ะ ซึ่งมันจะอยู่ในช่วงที่เราต้องระวัง ถ้า จะให้เรามั่นใจว่าน้ำจะไม่มาแล้วน่าจะอยู่ในช่วง ปลายเดือนตุลาหรือพฤศจิกาค่ะ สำหรับอยุธยาเราจะไม่เจอน้ำป่าหรือน้ำทะลักอย่างภาคเหนือ ถามว่าของเราได้รับผลกระทบมันก็ได้รับทุกปีแต่ของเราจะไม่รุนแรงเหมือนกับภาคเหนือหรืออีสานที่รวมกับน้ำป่าด้วยค่ะ ซึ่งของเราจะมีการแจ้งเตือนจากกรมชลประทานตลอด เพราะฉะนั้นจะเก็บของได้ทันก็จะเสียหายไม่มากเหมือนกับภาคเหนือ ซึ่งภาคเหนือยอมรับเลยค่ะว่าน่าสงสารมากกว่าของเรา เพราะของเรายังมีเวลาเก็บของเลยไม่เสียหายมากเท่ากับของเขา

ผู้ใหญ่สมเจน หลีหมั่น ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ท่าช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวเสริมว่า จริงๆ ภาครัฐมีการแจ้งเตือนตลอดแต่มันก็เหมือนเป็นประจำทุกปีที่อยุธยาจะหนีไม่พ้นน้ำท่วม ซึ่งจริงๆที่หลายคนเข้าใจว่าทำไมไม่ออกมา จากบ้านจะได้ปลอดภัย ก็อย่างที่บอก หรือที่เราเข้าใจกันว่าเค้าก็ห่วงทรัพย์สินของที่บ้านของเขา อีกอย่างก็คือส่วนใหญ่ที่อยู่ก็จะเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่อยากทิ้งบ้าน ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดความเคยชินในพื้นที่ยอมรับได้ในบางส่วน แต่บางส่วนเด็กรุ่นใหม่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน ก็อาจจะไม่เข้าบ้าน อาจจะไปอยู่ที่อื่น แต่คนเฒ่าคนแก่จะยังอยู่ที่บ้าน ยังไงก็ฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและมีความสามารถในการช่วยเหลือ ถ้าอยุธยาได้รับผลกระทบมากกว่านี้ในอนาคตก็ อยากให้เข้ามาช่วยเหลือ กับประชาชนตรงนี้ ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับผม

นายณรงค์ศักดิ์ นพสิทธิ หรือ จตุรธรรม 7 ตัวแทนจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิจตุรธรรมประทีปกล่าวว่า “การรับบริจาคของของมูลนิธิจตุรธรรมประทีปเรารับบริจาคประมาณสองสัปดาห์ ซึ่งส่วนแรกเราได้ส่งสิ่งของไปบริจาคภาคเหนือ แต่วันนี้มาอยุธยาเราได้นำของมาทั้งหมด 1000 ชุด ซึ่งลูกข่าย ของมูนิธิที่มาวันนี้มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาร่วมด้วยประมาณ 20 ถึง 30 ท่าน เราออกจากชลบุรีประมาณเที่ยงคืน 39 นาที สำหรับ การลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมของเราในอำเภอบางบาล และพื้นที่ใกล้เคียงถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปีที่ 3 หรือ 4 ที่เราได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนของที่นี่ สำหรับความรู้สึกที่ได้ร่วมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมผมก็รู้สึกดีใจแล้วก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ พวกเราหน่วยกู้ภัยก็ขอเป็นกำลังใจและเป็นส่วนหนึ่งที่จะคอยช่วยเหลือซับน้ำตาของพวกคุณ แม้จะไม่ได้มากมายแต่พวกเราก็ทำด้วยใจ และ ผมขอเป็นตัวแทนของมูลนิธิจตุรธรรมประทีปขอขอบคุณ ประชาชนที่ร่วมบริจาคสิ่งของ หรือแม้กระทั่งค่าน้ำมันรถยนต์ในการเดินทางมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้งนี้ และในสัปดาห์หน้า เราจะมีการเดินทางไปช่วยเหลือที่ จังหวัดบึงกาฬและหนองคายด้วยครับ