บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด และ บริษัท โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง จำกัด ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระบบตัวรถไฟฟ้าขนาดรอง (Feeder Line) เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยระบบรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเน้นเรื่องของการศึกษาและพัฒนาระบบต่างๆ ให้เกิดการนำไปสู่ภาคปฏิบัติได้จริง พร้อมผลักดัน Thai Team นำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนานวัตกรรมระบบรางและขนส่งมวลชนของประเทศโดยคนไทย เพื่อคนไทย ตามนโยบาย Thai First ให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง
นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด กล่าวว่าบริษัทเอเอ็มอาร์เอเซียเป็นบริษัทวิศวกรรมของคนไทยดำเนินกิจการมากว่า 20 ปี เรามีจุดมุ่งหมายที่จะนำเทคโนโลยีแขนงต่าง ๆ มาออกแบบและจัดทำนวัตกรรมใหม่ เพื่อใช้พัฒนาศักยภาพของเมืองและทำให้คุณภาพชีวิตของคนในเมืองดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำให้เมืองเป็นเมืองอัจฉริยะ ในด้านคมนาคมสาธารณะ (Public Transportation) ด้านความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อม (Wellness and Green Environment) จึงเกิดความร่วมมือกับบริษัทโชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านผลิตตัวถังรถ ตัวถังเรือ จากอลูมิเนียมมากว่า 15 ปี เพื่อให้เกิดการร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ในการสร้างระบบและรถสำหรับระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการระบบตัวรถไฟฟ้าขนาดรอง (Feeder Line) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยระบบรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
“เราจะเริ่มขับเคลื่อนอย่างจริงจังเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียงการหารือในเชิงวิชาการ แนวทางดำเนินการกับกลุ่มโชคนำชัย และ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับค่อน) ที่เป็นการรวมกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ หลังจากนี้ก็จะเริ่มเห็นความคืบหน้าด้านการผลิตเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะความร่วมมือ 1-2 รายนี้เท่านั้นยังมีผู้ประกอบอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาร่วมมือผลักดันอีกหลายราย โดยบางรายอาจเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนการผลิตกระจก เบาะ ราวจับ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง ตามคุณลักษณะเฉพาะ มีคุณภาพใช้งานที่ตรงตามการใช้งาน เพื่อเป็นการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างตรงตามความต้องการได้ล่วงหน้า” นายมารุตกล่าว
นายนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทโชคนำชัย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า โครงการรถไฟฟ้าขนาดรองเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้ความร่วมมือของนักอุตสาหกรรมไทย เราเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความพร้อมทางด้าน Technology ชั้นสูง ตั้งแต่วิศวกรรมการออกแบบ, ผลิต จนถึงการประกอบแบบจำนวนมาก (Mass Production) ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเทียบเท่าการผลิตสากลหมายถึงความสามารถในการทำต้นทุนให้สู้กับตลาดได้ พร้อมกับพันธมิตร Supply chain ไทย ที่มีความเข้าใจเรื่องการผลิตตามมาตรฐานสากลเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าการร่วมมือกันในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการผลิตรถไฟฟ้าที่ผลิตออกจากกลุ่มคนไทยทั้งคัน และเป็นจุดเริ่มต้นของระบบรางสำหรับอนาคตต่อไป
นายมารุต ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Thai Team เพิ่มเติมว่าย้อนหลังไปประมาณ 10 กว่าปี เอเอ็มอาร์เอเซียเป็นบริษัทไทยบริษัทแรกที่ได้รับงานออกแบบติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ หรือที่เรียกว่า Turnkey Project คืองานส่วนต่อขยายสายสีเขียวข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งธนบุรีจากสถานีตากสินไปวงเวียนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร และได้ทำงานส่วนต่อขยายสายสีเขียวอย่างต่อเนื่องอีก 30 กว่าสถานี และศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้าอีกสองแห่ง ซึ่งจะให้บริการถึงคูคตในเดือนธันวาคมปีนี้ นอกจากสายสีเขียวที่เป็นระบบรถไฟฟ้าสายหลักแล้วเรายังได้รับความไว้วางใจให้ทำโครงการระบบขนส่งมวลชนสายรอง (Feeder system) โครงการแรกของประเทศไทย คือรถไฟฟ้าสายสีทอง (ช่วงธนบุรี-คลองสาน) ที่เราเป็นผู้ออกแบบและติดตั้ง และบริหารงานทั้งหมดแบบเบ็ดเสร็จซึ่งจะเปิดให้บริการภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน
นายมารุตระบุว่า ล่าสุดที่บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด เป็นผู้รับเหมาหลักทั้งระบบของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ทำให้บริษัทได้รับโอกาสที่จะคัดเลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน แต่ผลิตในประเทศ ที่เราเรียกกันว่า Local Contents นำมาใช้งานในโครงการได้มากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ซื้อคือกรุงเทพธนาคมและ BTS นอกจากประสบการณ์ในฐานะผู้ออกแบบติดตั้งระบบรถไฟฟ้าทั้งสายหลักและสายรองในประเทศไทยแล้ว เรายังได้พัฒนาอุปกรณ์สำหรับการเดินรถไฟฟ้า เช่น ระบบหยุดรถฉุกเฉิน ระบบจอแสดงตำแหน่งรถไฟฟ้าและรถ BRT ระบบตรวจสอบการทำงานกล้องในรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ได้พัฒนาและสร้างเพื่อจำหน่ายตามมาตรฐานสากล พร้อมกับได้นำไปจัดแสดงในงาน InnoTrans ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด ย้ำว่าคนไทยมีศักยภาพในการพัฒนาและจัดทำอุปกรณ์และระบบเสริมการเดินรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คือตั้งแต่การออกแบบ ผลิต ติดตั้งพร้อมทดสอบ บริการซ่อมบำรุง ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะสนับสนุนให้มีการใช้สินค้าในประเทศภายในแนวนโยบาย “Thai First” เราจึงได้นำความคิดนี้ไปหารือกับกลุ่มนักอุตสาหกรรมผู้ผลิตในประเทศ เช่น บริษัท โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง จำกัด, บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ยางโอตานิ จำกัด, บริษัท แม่น้ำสแตนเลสไวร์ จำกัด (มหาชน), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (Thai Subcon) รวมถึงสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งได้มีแนวคิดตรงกันที่จะรวมกลุ่มกันขึ้นภายใต้ “Thai Team” ซึ่งเชื่อว่าการผนึกกำลังกันนี้จะทำให้ผู้ซื้อซึ่งเป็นภาครัฐ หรือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เชื่อมั่นและมาร่วมส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงบนระบบและของที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานระดับสากล
“จากการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ถือเป็นการเริ่มต้นของโครงการ Thai Team ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนานวัตกรรมระบบรางและขนส่งมวลชนของประเทศโดยคนไทย เพื่อคนไทย ตามนโยบาย Thai First ให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง และเชื่อว่าพวกเราพร้อมจะเดินหน้าตามแผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้สำเร็จลุล่วงต่อไป”
More Stories
เริ่มแล้ววันนี้ ความสุข ทุก Lifestyle กับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง ทุกประเภท
“กูร์เมต์ มาร์เก็ต” ร่วมกับ “กูร์เมต์ อีทส์” จัดงาน “Gourmet Fruit First” เทศกาลคัดเฟรชอิ่มฟรุ๊ต ที่แรกและที่เดียว กับการคัดผลไม้สด ใหม่ ตามฤดูกาลไว้มากที่สุด เต็มอิ่มทุกรสผลไม้
ประเทศไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพงานประชุม FNM 2024 เวทีรวมนักวิจัยและแพทย์ระดับโลก แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมุ่งพัฒนานวัตกรรมรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร