TradeWeThai ปรับโฉมใหม่ประเดิมช่วยเกษตรกรต้านภัยโควิท

เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสTradeWeThai ปรับโฉมใหม่ขายสินค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รุกจำหน่ายสินค้าเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากโควิท พร้อมอัพเกรดระบบซื้อขายออนไลน์ใหม่ เตรียมส่งสินค้าขายทั่วโลกหนุนช่วยผู้ประกอบการไทย

รายงานข่าวจาก TradeWeThai แจ้งว่าภายหลังจากที่มีสถานการณ์โควิท 19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ก็ได้เกิดปรากฏการณ์การค้าขายแบบออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลก กล่าวสำหรับประเทศไทยแม้จะได้รับผลกระทบกับทุกสาขาอาชีพ แต่นิวนอร์มอลวิถีใหม่หลังโควิทคือการขายออนไลน์กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่หลังโควิทอย่างแน่นอน​​​​​​​โดยเหตุดังที่กล่าวมา TradeWeThai จึงได้ปรับปรุงการบริหารการขายครั้งใหญ่โฉมใหม่หมด นับตั้ง แต่การนำคนหนุ่มสาวยุคใหม่เข้ามาบริหารงาน ที่เน้นการเข้าถึงตัวผู้บริโภคอย่างฉับไวและการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีให้ทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายออกเป็นสองช่องทางสำคัญ ได้แก่ การขายแบบออนไลน์และการขายแบบออฟไลน์(มีหน้าร้านหรือแผงจัดจำหน่าย)

“เราให้ความสำคัญกับการนำสินค้าของกลุ่มองค์กรเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือแม่แต่กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก มาวางจำหน่ายทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในขั้นต้นเฉพาะหน้านี้เราได้จัดทำโครงการ “ช่วยเกษตรกร สู้ภัยโควิท” ประเดิมด้วยการขายผ่านแผงร้านค้าที่ตลาดอตก. ด้วยการนำมะม่วงพันธุ์มหาชนก เกรดส่งออก ของกลุ่มองค์กรเกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกมะม่วง อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ราว 20 ตัน มาทยอยจำหน่าย ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้มาจับจ่ายในตลาดอตก.เป็นจำนวนมาก

และเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาซึ่งได้รับผล กระทบจากการระบาดของโควิท19 เช่นกัน ในราวสิ้นเดือนนี้ เราจะนำข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 100 % จากชาวนาบ้านแสงทรัพย์-แสงตะวัน จังหวัดสุรินทร์ มาจำหน่ายออนไลน์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้กับผู้บริโภคบน TradeWeThai​
​นอกจากนั้นก็จะนำกาแฟสดคั่วบดจากวิสาหกิจชุมชนกาแฟทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี(ด้วยความสูงของพื้นที่ 300-1000 เหนือระดับน้ำทะเล ที่สามารถปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ที่หอมรสเข้มปนหวานและพันธุ์อาราบีก้าที่หอมละมุน) มาจำหน่าย​​​​​​​​รายงานข่าวจาก TradeWeThai ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้บริหารชุดใหม่ยังคงวางคอนเซ็ปต์ของสินค้าว่าจะต้องเป็นสินค้าไทยที่เป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ หรือเป็นหมวดผลิตผลอาหารอินทรีย์ ธัญพืชผลไม้และยังหมายรวมถึงหมวดสินค้าประเภทโอทอปของชาวบ้านหรือเกษตรกร ในขั้นต้นนี้จะปรับสินค้าให้เหลือเพียง 9 หมวด ประกอบด้วย​1.สินค้าเกษตรอินทรีย์ 2.สินค้าแปรรูป 3.สินค้าบ้านและสวน 4.สินค้าหัตถกรรมจักสาน 5.สินค้าสุขภาพและความงาม 6.สินค้าเครื่องดื่มและเครื่องดื่มสมุนไพร 7.สินค้าของใช้ในครัวเรือน 8.สินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง 9.สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ​​​​​“เรามีเป้าหมายสำคัญที่ต้องการให้สินค้าของชุมชนไม่ผ่านมือพ่อค้าคนกลาง และเกษตรกรผู้ผลิตสามารถกำหนดราคาขายได้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา อย่างเป็นรูปธรรม กลุ่มองค์กรเกษตรกรใดที่ต้องการให้เราช่วยในเรื่องการจัดจำหน่ายก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ www.tradewethai.com / Line: TradeWeThai ” รายงานข่าวระบุ.​