จากการรายงานสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2563 พบว่า กลุ่ม “โรคหัวใจ” และหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนทั่วโลก หรือประมาณ 17.9 ล้านคน และจากสถิติกระทรวงสาธารณสุขในประเทศไทย พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 6 หมื่นราย โดยอุบัติการณ์ล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน หรือ ทุก 30 นาที จะมีคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจขาดเลือดถึง 1 คนเลยทีเดียว
ชวนให้จินตนาการถึงเสียงเข็มวินาทีของนาฬิกา บอกถึงการนับถอยหลังถึงภัยของโรคหัวใจที่คร่าชีวิตคนไทยไปอย่างอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตสูงถึงอันดับ 3 ของไทยเลยทีเดียว ซึ่งโรคหัวใจที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเยอะที่สุดทั่วโลกคือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ซึ่งพบได้มากในผู้สูงอายุ ตามมาด้วยโรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ที่น่าตกใจคือ พบว่าปัจจุบันมีสถิติพบคนที่อายุยังน้อยหรือวัยรุ่นมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้มากด้วยเช่นกัน
แพทย์หญิงปีนัชนี ชาติบุรุษ ประธานมูลนิธิดวงใจใหม่ และนายกสมาคมศัลยแพทย์ทรวงอกแห่งประเทศ เล่าว่า “ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 รองจากโรคมะเร็ง และสาเหตุของการเกิด โรคหัวใจ นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเด็น ไม่มีสาเหตุที่ตายตัวแน่นอน แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจบ่งชี้ว่าน่าจะมีส่วนในการพัฒนาไปสู่การเป็นโรคหัวใจได้นั้นสามารถแบ่งเป็น 2 ปัจจัยเสียงใหญ่ๆ คือ
ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ อาทิ การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบนั่งอยู่กับที่ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย
และปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ปัจจัยเสี่ยงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น, ปัจจัยจากฮอร์โมนเพศเช่นผู้หญิงที่อยู่ในวัยหลังหมดประจำเดือน และกรรมพันธุ์ เป็นต้น โดย โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่แตกต่างกัน ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด คือ หัวใจล้มเหลว เกิดขึ้นได้จากโรคหัวใจทุกชนิด”
แพทย์หญิงปีนัชนี กล่าวอีกว่า ในแต่ละปีมีศักยภาพในการทำผ่าตัดได้ 600 -700 คนต่อปี เช่นเดียวกับตัวเลขผู้รับการผ่าตัดโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ ผู้ป่วยโรคหัวใจที่รับการผ่าตัดจากโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศมีขีดความสามารถ 100 จนถึง 1,000 เคส ปัจจุบันก่อนสถานการณ์โควิดระบาด โรงพยาบาลราชวิถีทำการผ่าตัดโรคหัวใจจำนวน 680 เคส นอกเหนือจากคนไข้ของโรงพยาบาล รวมถึงคนไข้เด็กที่ส่งมาจากโรงพยาบาลเด็กที่รับผิดชอบโดยตรง ทีมแพทย์ยังต้องผ่าตัดคนไข้เคสยากๆ จากโรงพยาบาลต่างจังหวัดที่อยู่ในการดูแลของราชวิถีอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ทีมแพทย์ศัลยกรรมหัวใจ และทีมพยาบาลมีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญมาก จะมี “ข้อจำกัด และข้อที่เหลือเฟือ” ข้อจำกัดในเวลาคือ ทีมงานแพทย์สามารถทำงานได้ ประมาณ 680 เคสต่อปี อย่างไรก็ตาม ในทุกปีจะมีคนไข้ที่ต้องรออยู่ในคิวประมาณ 300 คน ซึ่งต้องใช้เวลารอนาน 6 – 8 เดือน อาจจะเพิ่มกว่านั้น
“แม้จำนวนกำลังพลและความพร้อมจากทีมบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีมากเพียงใด แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะต้นทุนด้านการรักษา ยังคงทำให้มีผู้ป่วยยากไร้จำนวนไม่น้อย ที่อยู่ระหว่างรอการช่วยเหลือด้านการผ่าตัด ในขณะนี้มีมากถึง 197 ราย นั่นเท่ากับว่ายังมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่รอเวลาเพื่อนับถอยหลัง ในวาระเนื่องใน วันหัวใจโลก วันที่ 29 กันยายน 65 นี้ มูลนิธิดวงใจใหม่จึงอยากเชิญชวนคนไทยทุกท่านมาร่วมเป็น “ผู้ให้” เพื่อส่งต่อจังหวะการเต้นของหัวใจแก่ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ยากไร้ ให้กลับมามีจังหวะที่สดใสอีกครั้ง ด้วยไปด้วยกัน” แพทย์หญิงปีนัชนี ทิ้งท้าย
ยังมีอีกหลายชีวิตที่กำลังรอการเดิมพันเพียงลำพัง มาร่วมกันสร้างกุศลต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ หยุดเวลาคร่าชีวิต ด้วยการเป็นผู้ให้ ช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจผู้ยากไร้ ได้ผ่าตัวหัวใจทันเวลา และมาร่วมสร้างกุศลด้วยการต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์เนื่องในวันหัวใจโลก 29 กันยายน กับมูลนิธิดวงใจใหม่ ได้ที่บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “มูลนิธิดวงใจใหม่” ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาโรงพยาบาลราชวิถี บัญชีเลขที่ 051-2-65450-7 หรือโทร. 081 915 3651 เพื่อช่วยผู้ช่วยยากไร้ ให้ได้ผ่าตัดหัวใจ เพราะไม่รู้ว่ากว่าจะได้คิว…จะยังมีลมหายใจอยู่ไหม?
More Stories
เริ่มแล้ววันนี้ ความสุข ทุก Lifestyle กับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง ทุกประเภท
“กูร์เมต์ มาร์เก็ต” ร่วมกับ “กูร์เมต์ อีทส์” จัดงาน “Gourmet Fruit First” เทศกาลคัดเฟรชอิ่มฟรุ๊ต ที่แรกและที่เดียว กับการคัดผลไม้สด ใหม่ ตามฤดูกาลไว้มากที่สุด เต็มอิ่มทุกรสผลไม้
ประเทศไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพงานประชุม FNM 2024 เวทีรวมนักวิจัยและแพทย์ระดับโลก แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมุ่งพัฒนานวัตกรรมรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร