สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เผยอีกหนึ่งผลงานการผลักดัน โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับด้วยนวัตกรรมเกษตร ผ่านโมเดล “มาลัยวิทยสถาน” มุ่งเน้นวิจัยสนับสนุนผู้ประกอบการไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่จังหวัดเลย และลำปาง พร้อมพัฒนาองค์ความรู้ที่ยั่งยืน พัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการ สู่การพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างยั่งยืน มี SME เข้าร่วมกว่า 200 ราย เพิ่มคลัสเตอร์ไม้ดอกไม้ประดับกว่า 1,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 150 ล้านบาท/ปี
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/371.jpg)
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดเผยว่า โครงการ “มาลัยวิทยสถาน” มีจุดเริ่มต้น จากโครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับด้วยนวัตกรรมเกษตร โดย วว. ได้ทำการวิจัยสนับสนุนผู้ประกอบการไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่จังหวัดเลยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2561 และกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ไม้ดอกไม้ประดับ ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563 ซึ่งได้มีการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการ ให้เป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีศักยภาพในการแข่งขัน
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/4303.jpg)
“จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เล็งเห็นช่องการยกระดับผู้ประกอบการ จึงมอบแนวทางให้นำนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการพัฒนาองค์ความรู้ที่ยั่งยืน รวมทั้งกระบวนการผลิตไม้ดอกไม้ ไม้ประดับที่หลากหลาย สู่การพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต อันตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ ของกระทรวงฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับเข้มแข็ง เป็นต้นว่า การพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ การคัดเลือกต้นพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่แข็งแรงปลอดโรค การส่งเสริมการใช้วัสดุปลูกที่มีคุณภาพ และมีสารอาหารเหมาะสมต่อพืช ระบบการปลูกเลี้ยงสมัยใหม่ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน การสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกเลี้ยงให้เข้มแข็ง รวมถึงการเพิ่มมูลค่า เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ตลอดจนหนุนเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในจังหวัด โดยมีพื้นที่นำร่องในจังหวัดเลย แล้วขยายไปยังจังหวัดลำปาง เพื่อให้เป็นพื้นที่ต้นแบบ สู่การเรียนรู้เชื่อมโยงไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อไป”
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/4879.jpg)
ผอ.วว. เผยด้วยว่านับแต่เริ่มโครงการตามแนวทาง “มาลัยวิทยสถาน” มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการในพื้นที่ต้นแบบจังหวัดเลย และลำปางกว่า 200 ราย และมีเครือข่ายคลัสเตอร์ไม้ดอกไม้ประดับรวมกว่า 1,000 ราย โดยในปี 2565 สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม้ดอกไม้ประดับกว่า 150 ล้านบาท ส่งผลดีทั้งเชิงเศรษฐกิจ, เชิงสังคม และเชิงนโนบาย อันสอดคล้องกับนโยบายหลัก ของ วว.
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/2189.jpg)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “มาลัยวิทยสถาน” ได้ทำหน้าที่เป็นวิทยสถานแห่งปัญญา มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม ตลาดไม้ดอกไม้ประดับและผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน ให้สามารถพึ่งพาตนเองและเติบโตได้อย่างมั่นคง ทั้งยังก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกลุ่มเกษตรกร นักวิจัยในมหาวิทยาลัย นักวิจัยหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับของต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/3741.jpg)
![](http://thainewsbiz.com/wp-content/uploads/2023/03/3104.jpg)
สำหรับผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไปที่สนใจโมเดล “มาลัยวิทยสถาน” สามารถติดตามรายละเอียดได้ในหนังสือ “มาลัยวิทยสถาน” จัดพิมพ์โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) หรือ คลิกโหลด E-Book ได้ที่ลิงก์………………………………..ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://tistrservices.tistr.or.th/projects/malai_academy/index.php และ FB:FlowerClusterSME
More Stories
“ผำ พืชเกษตรตัวใหม่ผ่านการวิจัยพร้อมแปรรูปสู่เชิงพาณิชย์ ” ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร
ข้อมูลโครงการพัฒนาระบบบริหารข้อมูลสินค้าเกษตรและตลาดดิจิทัล เพื่อการบริการประชาชน (Platform เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด) ผ่าน Mobile Application
สวก. เร่งให้ทุน มุ่งยกระดับการเกษตรไทยด้วยงานวิจัย เน้นเพิ่มรายได้จริง เพื่อช่วยพัฒนาภาคการเกษตรและสร้างเศรษฐกิจฐานรากแบบยั่งยืน